กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมชลประทานวางแผนจัดสรรน้ำไว้เพื่อการรักษาระบบนิเวศ ควบคู่กับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตรไว้แล้ว ซึ่งมีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับเล่นสงกรานต์อย่างแน่นอน
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูแล้งปี 2559/2560 กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ จำนวน 17,661 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบัน (11 เม.ย 60) ใช้น้ำไปแล้ว 16,495 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 ของแผนจัดสรรน้ำ สำหรับแผนการจัดสรรน้ำจาก 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 3,754 ล้าน ลบ.ม. ในวันที่ 1 พ.ค. 60 จะมีน้ำใช้การ 4,463 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเดือน มี.ค. - เม.ย. ได้เกิดพายุฤดูร้อน ปริมาณฝนตกมีมาก แต่พื้นที่บางส่วนแห้งแล้งฝนจึงซึมลงดิน ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างน้อยประมาณ 278 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ในพื้นที่ชลประทาน จะไม่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้ง แต่พื้นที่นอกเขตชลประทานได้มีการประกาศให้ 105 อำเภอ 34 จังหวัด ยังเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังในเรื่องขาดน้ำอุปโภค บริโภค ดังนั้นประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในอนาคตให้ได้มากที่สุด
ขณะที่แผนการจัดสรรน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ ได้จัดสรรน้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตงเข้าไปไว้ในคูเมืองเชียงใหม่แล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. 60 เพื่อปรับสภาพและเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ได้คุณภาพมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย และในวันที่ 9 - 10 เม.ย. 60 ได้นำน้ำเข้าไปในคูเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง โดยปริมาณน้ำที่ปล่อยมาสนับสนุนเทศกาลสงกรานต์ จ.เชียงใหม่ จะไม่กระทบต่อปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนฤดูร้อนตกลงในพื้นที่ ทำให้พื้นที่การเกษตรส่วนหนึ่งได้รับน้ำจากน้ำฝน ประกอบกับได้มีการนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ยวก ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่กำลังดำเนินการขุดลอกเพื่อเพิ่มปริมาณความจุ จำนวนประมาณ200,000 ลบ.ม. เข้ามาเก็บไว้ในคลองส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง และจะส่งน้ำเข้าคูเมืองประมาณ80,000 ลบ.ม. เท่านั้น โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่สำรองไว้สำหรับการทำนาปี ซึ่งได้สำรองปริมาณน้ำไว้ล่วงหน้าแล้วที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลจำนวน 32 ล้าน ลบ.ม. เพียงพอใช้ในการตกกล้าข้าวนาปี ในพื้นที่การเกษตรของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลซึ่งมีประมาณ 140,000 ไร่ และในพื้นที่การเกษตรของลำน้ำปิง ซึ่งมีประมาณ 150,000 ไร่ รวมทั้งปริมาณน้ำดังกล่าวยังเพียงพอสำหรับน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่งของจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำ 118 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 44 ของปริมาณความจุ ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณน้ำเพียง 45 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 17 ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 51 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 19 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณน้ำเพียง 27ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 10
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. - 11 เม.ย.60 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ปฏิบัติการขึ้นบินทั้งหมด 611 เที่ยวบิน มีฝนตกในพื้นที่ 48 จังหวัด และจากการเกิดพายุฤดูร้อนนั้น ทำให้เอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวง แต่ขณะเดียวกันมีโอกาสเกิดเป็นพายุลูกเห็บด้วย จึงได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งพายุลูกเห็บขึ้น 2 หน่วย คือ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดพิษณุโลก โดยผลการปฏิบัติการวันที่ 6 เม.ย. ที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถสลายกลุ่มเมฆที่มีโอกาสเกิดเป็นลูกเห็บได้ และวันที่ 10 เม.ย. 60 มีแนวโน้มเกิดพายุลูกเห็บที่จังหวัดตาก และ จังหวัดลำปาง ซึ่งจากการขึ้นบินสามารถปฏิบัติการสลายได้สำเร็จ ในส่วนของจังหวัดสระแก้ว ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) หลังจากขึ้นบินปฏิบัติการทั้งหมด 14 วัน มีฝนตกทั้ง 14 วัน ในพื้นที่ 9 อำเภอ