กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--บัตรกรุงไทย
เคทีซีเดินหน้าโครงการ Learn & Earn ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ร่วมผลักดันพัฒนาเยาวชนคุณภาพสู่สังคม ภายใต้แนวคิด "เรียนรู้อย่างไม่เพียงพอ เพื่อชีวิตที่พอเพียง" โดยยึดหลักคำสอนของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เข้ากับทุกยุคสมัย เป็นแนวทางสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ รู้จักหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเอง รู้จักเก็บออม และใช้ชีวิตให้มีคุณค่าอย่างยั่งยืน
นางสาวพจนีย์พร ชำนาญภักดี ผู้อำนวยการ - ทรัพยากรบุคคล "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "เคทีซีได้ดำเนินโครงการ Learn & Earn ต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาเยาวชนให้มีคุณภาพร่วมกับสังคมไทยมายาวนานถึง 13 ปี โดยการทำโครงการฯ ในปี 2560 นี้ เคทีซีจะมุ่งเน้นการผลิตบุคลากรคุณภาพออกสู่สังคม ภายใต้แนวคิด"เรียนรู้อย่างไม่เพียงพอ เพื่อชีวิตที่พอเพียง" โดยมีสาระสำคัญ เพื่อให้นิสิต - นักศึกษาในโครงการฯ เรียนรู้อย่างไม่รู้จบในหลายแง่มุม โดยเฉพาะการเรียนรู้และน้อมนำคำสอนของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ มาเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ประกอบกับการช่วยเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงอาชีพที่น่าสนใจในยุคดิจิทัล และเรียนรู้เคล็ดลับก้าวสู่ความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ผ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของวิทยากรชั้นนำในหลากหลายอาชีพ และเปิดเวทีให้นิสิตนักศึกษาในโครงการฯ ได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างอิสระ เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ตลอดจนสร้างรายได้และเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน"
ในการจัดกิจกรรมเพื่อให้สอดรับกับแนวคิด "เรียนรู้อย่างไม่เพียงพอ เพื่อชีวิตที่พอเพียง" จะประกอบด้วย 5 กิจกรรมต่อเนื่อง 1) เรียนรู้ก่อนเข้าทำงาน เตรียมใจ เตรียมตัว และเตรียมรับมือกับการสัมภาษณ์งานจากมืออาชีพ 2) เรียนรู้การประยุกต์ใช้สื่อดิจิทัลในการประกอบอาชีพ 3) เรียนรู้กับนักวิเคราะห์การเงินชื่อดัง เพื่อต่อยอดการวางแผนการเงินในอนาคตอย่างพอเพียง 4)เรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์กับชีวิตที่พอเพียงและทันสมัย 5) เรียนรู้การรังสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อพ่อหลวงจากศิลปินรุ่นพี่ และร่วมกันต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม
"เราหวังว่าการจัดกิจกรรมในปีนี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้นิสิตนักศึกษาในโครงการฯ ได้เรียนรู้และเปิดมุมมองนอกห้องเรียนที่พวกเขาอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน และช่วยจุดประกายความคิดและเป็นบันไดความรู้ที่นำพาให้น้องๆ ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน และเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและของประเทศชาติในอนาคตต่อไป" นางสาวพจนีย์พรกล่าว
ด้านนางสาวเมรินทร์ เมฆวัฒนา นิสิตปี 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าร่วมฝึกงานกับหน่วยงานทรัพยากรบุคคล ในโครงการ Learn & Earn เกือบ 2 ปี เปิดเผยว่า "ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เข้ามาเรียนรู้งานในฐานะLearn & Earn นอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียน ได้พัฒนาทักษะการทำงานหลายด้าน เช่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น เทคนิคการประสานงานกับคนที่หลากหลาย การดูแลผู้สมัครที่เข้ามาสัมภาษณ์งาน การช่วยเหลืองานด้านเอกสาร เป็นต้น อีกทั้งได้ฝึกรับมือกับปัญหา และการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอีกด้วย"
"ที่เคทีซีสอนอะไรเราหลายอย่าง นอกจากทักษะการทำงาน เรายังมีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้ว่าต้องบริหารจัดการเวลาเรียนและเวลางานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น รู้จักการเข้าสังคมการเข้าหาผู้คน โดยเฉพาะผู้ที่อาวุโสกว่า และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ทั้งพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่นี่ทำให้รู้สึกว่าเหมือนอยู่กับครอบครัว บรรยากาศการทำงานสนุกสนาน และอยากที่จะมาทำงานทุกวัน เหมือนบ้านอีกหลัง" นางสาวเมรินทร์ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าว ทางเคทีซียังได้รับเกียรติจากนายชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย หัวหน้าครูสอนและผู้บริหารสถาบันในเครือ Big Brain ผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย นักการตลาดดิจิทัลที่มีชื่อเสี่ยงและผู้ก่อตั้งเพจ M.I.B Marketing In Black ซึ่งได้รับความนิยมบนสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และเผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ภายใต้หัวข้อ "9 เคล็ดลับที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ" อีกด้วย
ข้อมูลสำหรับกองบรรณาธิการ
โครงการ "Learn & Earn" ริเริ่มและดำเนินการโดย "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่ปีที่ 14 (ปี2560) เป็นโครงการเพื่อสังคมที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ใช้เวลาว่างจากการเรียนปกติเข้าทำงานกับเคทีซี โดยมีผลตอบแทนเป็นรายได้ต่อชั่วโมง ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรู้ พัฒนาและค้นหาศักยภาพของตนเอง ตลอดจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ปัจจุบันมีนิสิต–นักศึกษาในโครงการฯ จำนวน 110 คน และได้รับการบรรจุเป็นพนักงานเคทีซีแล้วกว่า 300 คน โดยที่ผ่านมามีนิสิตนักศึกษาสนใจสมัครเข้าร่วมในโครงการฯ ทั้งหมดกว่า 25,000 คน