กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทยอวดผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ของกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก โดยข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุน (K-MIDSMALL) ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 32% และเอาชนะกองทุนหุ้นไทยทั้งหมดในอุตสาหกรรม ด้านกองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) ตามมาเป็นอันดับ 2 ให้ผลตอบแทนกว่า 31%
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยของบลจ.กสิกรไทย ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างโดดเด่น เนื่องจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมีการปรับตัวขึ้นสูงโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ประกอบกับกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ส่งผลให้กองทุนในกลุ่มดังกล่าวของบริษัท มีผลตอบแทนที่สามารถเอาชนะกองทุนอื่นๆ ที่มีนโยบายการลงทุนเดียวกันในตลาด รวมถึงยังสามารถเอาชนะกองทุนหุ้นไทยทั้งหมดในภาพรวม
ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทย มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุน (K-MIDSMALL), กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) และกองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นระยะยาว (KMSLTF) ทั้งนี้ ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 กองทุน K-MIDSMALL และ KMSRMF มีผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 1 ปี ติดเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ตามลำดับ สามารถเอาชนะกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กอื่นๆ รวมถึงกองทุนหุ้นไทยทั้งหมดในอุตสาหกรรม โดยกองทุน K-MIDSMALL มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 32.16% ขณะที่กองทุน KMSRMF มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 31.94% ซึ่งทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 12.85%
ส่วนกองทุน KMSLTF ซึ่งเป็นกองทุนที่เพิ่งจัดตั้งเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2559 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในหุ้นขนาดกลางและเล็ก พร้อมทั้งต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี กองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 2.87% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.96% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 6.29% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 7.03% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2560)
นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า การปรับตัวขึ้นสูงของหุ้นขนาดกลางและเล็กในปีที่ผ่านมา ทำให้ Valuation หรือระดับราคาของหุ้นขนาดกลางและเล็กบางตัวปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพง บลจ.กสิกรไทยจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้สำหรับกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก โดยมีการขายทำกำไรบางส่วนในหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นสูง และคัดเลือกหุ้นตัวอื่นๆ ที่ยังมีระดับราคาที่น่าสนใจหรือไม่แพงจนเกินไป เข้ามาอยู่ในพอร์ต ทั้งนี้กองทุนยังคงเน้นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของผลกำไรในระดับสูง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้น้ำหนักการลงทุนในปีนี้ อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
"บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อหุ้นขนาดกลางและเล็ก โดยมองว่าในระยะยาวหุ้นกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับด้วยจำนวนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีอยู่ในตลาดจำนวนมาก ทำให้ผู้จัดการกองทุนมีโอกาสในการคัดเลือกหรือแสวงหาหุ้นที่ยังมีความน่าสนใจ ส่วนปัจจัยสนุนด้านเศรษฐกิจไทยในปีนี้มองว่ามีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การเติบโตของ GDP อยู่ที่ 3.3% ซึ่งในภาคการส่งออกมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นชัดเจน และมองการเติบโตของตัวเลขการส่งออกในปีนี้อยู่ที่ 2% ประกอบกับเศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนของภาครัฐ โดยบลจ.กสิกรไทยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี อยู่ที่ 1,650 จุด" นางสาวธิดาศิริกล่าว
ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน K-MIDSMALL กองทุน KMSRMF และกองทุน KMSLTF ของ บลจ. กสิกรไทย สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888