กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.มัดแมน หรือ MM ผู้นำธุรกิจอาหารและไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับโลก ชี้ผลตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ดีกว่าคาด นักลงทุนสถาบันจองซื้อหุ้นเกินกว่าที่จัดสรรไว้เกือบ 4 เท่า หลังเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจและโอกาส เทิร์นอราวนด์ ประกอบกับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 11 เม.ย.นี้ ด้านผู้บริหารมั่นใจในโครงสร้างการดำเนินธุรกิจและแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เร่งขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อผลักดันการเติบโต
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า หลังจากที่ร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายเปิดให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM ในราคาเสนอขายสุดท้ายที่หุ้นละ 5.25 บาท ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีกว่าคาดไว้ โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มียอดจองซื้อสูงกว่าจำนวนที่จัดสรรเกือบ 4 เท่า เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่ดีและโอกาสเทิร์นอราวนด์ได้อย่างมีศักยภาพ ประกอบกับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยหลังจากนี้คาดว่าหุ้น MM จะเข้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ MAI วันที่ 11 เมษายนนี้เป็นวันแรก
ทั้งนี้ MM เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารและไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับโลก โดยมีธุรกิจหลัก 2 กลุ่มคือ 1.ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ดำเนินกิจการภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศ ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท โอ บองแปง และบาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ และที่ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ และครัวเอ็ม และ 2.ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ 'เกรฮาวด์' ซึ่ง ณ สิ้นปี 2559 มีสาขารวมทั้งสิ้น 456 สาขา และมีแผนขยายสาขาร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่จะเติบโตอย่างมีศักยภาพ
นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MM กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในโครงสร้างการดำเนินธุรกิจและแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันธุรกิจเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ หลังจากปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิจากการตัดค่าจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการและการด้อยค่าของสินทรัพย์ อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยจะขยายสาขาร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ ในประเทศไทยเพิ่มอีก 6-9 สาขา รวมเป็น 19-22 สาขาภายในปี 2563 และเร่งขยายสาขาในต่างประเทศผ่านการให้สัญญาแฟรนไชส์ในประเทศใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงจะลงทุนเปิดร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ ในประเทศอังกฤษ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ นอกจากนี้ มีแผนขยายสาขาร้านดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ เพิ่มขึ้นแบรนด์ละ 12-15 สาขาต่อปี 5-6 สาขาต่อปี และ 3-5 สาขาต่อปีตามลำดับ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2563 คาดว่าร้านดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ จะมีสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 355 สาขา 96 สาขา และ 54 สาขาตามลำดับ
"เรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน โดยจะมุ่งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและผลักดันการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าตลาดรวม ดังนั้นจึงมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง" นายซาลฮานี กล่าว