กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--อาร์เอส
เทรนด์ตลาดโลกเฮลท์แอนบิวตี้โตแรง ดัน บริษัท "ไลฟ์สตาร์ (LifeStar)" ธุรกิจในเครืออาร์เอสผงาด สุดปลื้มยอดขายต่อเดือนปีนี้สร้างสถิติสูงกว่ายอดขายต่อเดือนปีก่อน ระบุเป็นผลจากใช้กลยุทธ์ Synergy all Dimensions การเชื่อมโยงคุณภาพในทุกมิติ "ผลิตภัณฑ์คุณภาพ-ผสานมีเดียเชิงลึก-ขยายช่องทางจำหน่ายแบบถึงตัว" บุกตลาดเต็มสูบ เตรียมสยายปีกออกสินค้าใหม่ 15 รายการรวด พร้อมปรับเป้ายอดขายปีนี้ใหม่ "เฮียฮ้อ" เผย "ธุรกิจสุขภาพและความงาม" ขึ้นแท่นเป็นธุรกิจหลักของบริษัทควบคู่ "ธุรกิจมีเดีย" ทันที
ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ "ไลฟ์สตาร์" ก้าวสู่ปีที่ 3 แนวโน้มกำลังเติบโตดีมากตามเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) เพราะประชาชนให้ความสำคัญใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น ปัจจุบัน "ไลฟ์สตาร์ (LifeStar)" มี 3 แบรนด์แยกตามกลุ่มสินค้า ประกอบด้วย แบรนด์แรก "Magique (มาจีค)" กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) ได้แก่ มาจีค โนเบิล ไวท์ มีส่วนผสมจากน้ำแร่ธรรมชาติภูเขาไฟฟูจิ เจาะกลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ต้องการผิวขาวกระจ่างใส, มาจีค ยูธฟูล เรเดียนซ์ มหัศจรรย์แห่งสาหร่ายหิมะสีแดง เจาะกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการชะลอริ้วรอยแห่งวัย และมาจีค กราวีธัส ด้วยอานุภาพสารสกัดจากปลาดาว เจาะกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป ที่ต้องการชะลอความหย่อยคล้อยและลดริ้วรอยลึก แบรนด์ที่สอง "Revive (รีไวฟ์)" กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (Hair Care) และ แบรนด์ที่สาม S.O.M (Science of Body&Mind) กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Food Supplements) ได้แก่ ไทม์แคปซูล เจาะกลุ่มที่ต้องการจัดการปัญหาข้อเข่าเสื่อมพร้อมเสริมสุขภาพในเม็ดเดียว, สลิคซ์ เจาะกลุ่มที่ต้องการลดความเสี่ยงโรคร้ายจากไขมันส่วนเกิน, เพียร่า เจาะกลุ่มที่ต้องการผิวขาวกระจ่างใส
ทั้งนี้ จากแผนธุรกิจปี 2560 ตั้งเป้าหมายคาดการณ์ว่า "ไลฟ์สตาร์" จะเติบโตถึง 100% ปรากฏว่าผ่านไปเพียง 3 เดือนแรก แต่ได้เห็นยอดขายต่อเดือนสร้างปรากฎการณ์ขยายตัวแบบเกินคาด เมื่อเทียบกับยอดขายต่อเดือนของปีก่อน ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะทำได้เกินเป้าที่วางไว้ 440 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสำเร็จมาจากการใช้กลยุทธ์ "การเชื่อมโยงคุณภาพในทุกมิติ (Synergy all Dimensions)" เป็นแนวทางการผลักดันให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด มี 3 เรื่องหลักๆ ด้วยกัน คือ
1.ผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Segments) เตรียมใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท สำหรับเพิ่มในแต่ละกลุ่มสินค้ามากกว่า 15 รายการ อาทิเช่น กลุ่มมาจีค, กลุ่มรีไวฟ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร S.O.M โดยยังคงให้ความสำคัญกับการจับมือกับแล็บ (LAB) ชั้นนำระดับโลกคัดสรรคุณภาพสินค้าดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ในเชิงลึก
2.สื่อ (Utilization of RS own media platform) ผสานทุกสื่อในเครือให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งเจาะลึกให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
3.ช่องทางการจัดจำหน่าย (Aggressive expansion in other channels) เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางเข้าถึงและบริการ ด้วยการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เทเลเซลล์กว่า 2เท่าตัวเพื่อเสริมความพร้อมการให้บริการได้ทั่วถึงผ่านช่องทางจำหน่ายผ่าน Call Center โทร.1781 และเจ้าหน้าที่ระบบวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อมีความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคนำไปสู่การต่อยอดทำตลาดได้แม่นยำมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความสำคัญช่องทางออนไลน์ด้วย และเตรียมพัฒนาช่องทางขายตรงในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังสนใจจะขยายไปยังตลาดต่างประเทศ ในเบื้องต้นกำลังมองความเป็นไปได้เข้าไปทำตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจท้องถิ่นในกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ และเวียดนาม
"จากการทุ่มเทใส่ใจและพัฒนาอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ผูกเป็นกลยุทธ์ที่เกิดผล ทำให้การเติบโตของไลฟ์สตาร์สูงมากเกินเป้าหมาย โดยทีมบริหารกำลังอยู่ในช่วงวิเคราะห์และวางแผนใหม่ ของปี2560นี้ เพื่อปรับเป้าหมายของปีนี้ใหม่ให้เหมาะสม และมั่นใจว่าธุรกิจสุขภาพและความงามขึ้นแท่นเป็นธุรกิจหลักของอาร์เอสควบคู่กับธุรกิจสื่อที่มีช่อง 8 เป็นเรือธง มั่นใจทั้งปีนี้อาร์เอสจะทำได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้" นายสุรชัย กล่าวทิ้งท้าย