กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
-บล.โกลเบล็ก เผยปัจจัยต่างประเทศกดดันตลาดหุ้นไทยต่อ จากเหตุการณ์ความตึงเครียดในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีที่ยังคลุมเครือ แม้เศรษฐกิจในประเทศส่งสัญญาณฟื้นตัวตัวเลข GDP โต 3.5% ให้กรอบดัชนี 1,560 - 1,600 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นแจ้งกำไรไตรมาส 1/60 เด่น ชู SCB –PTTEP-PTTGC -TOP –BANPU-TPCH ด้านแนวโน้มราคาทองคำ ให้ระดับ 1,275 ดอลลาร์ เป็นทั้งจุดเข้าและจุดคัท ซึ่งฝั่ง long ได้เปรียบเมื่อราคาอยู่เหนือ 1,275 ดอลลาร์ แต่ถ้าต่ำกว่านี้ให้ปรับมาเล่นแบบ swing trade
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่มีความสำคัญในตลาดโลกอยู่ในทิศทางที่ดี ล่าสุดจีนรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2560 ขยายตัว 6.9% ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งดีกว่าคาดการณ์ที่ 6.8% และสูงกว่าเป้าหมายปี 2560 ที่กำหนดไว้ที่ 6.5% ประกอบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 ของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อน แม้สินเชื่อเติบโตเล็กน้อย แต่การตั้งสำรองหนี้ลดลง
ทั้งนี้ ทิศทางเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วงเวลาที่เหลือยังมีแนวโน้มดี โดยสภาพัฒน์เปิดเผยว่าช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวจนกลับมาขยายตัวราว 3.5% จากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี การลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรกำลังปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาเป็นบวก
ส่วนปัจจัยกดดันมาจากความตึงเครียดในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีที่ยังไม่มีความแน่นอนและต้องจับตาใกล้ชิดว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ และ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 19 เม.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จะทราบผลในเช้าวันที่ 20 เม.ย. วันที่ 20 เม.ย. สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีเศรษฐกิจเดือนมี.ค. และดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย. ภายใน 21 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารมีกำหนดส่งงบการเงินไตรมาส 1/2560 และในวันที่ 21 เม.ย. กลุ่มประเทศอียูจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย.
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการซื้อดักงบไตรมาส 1/2560 ที่คาดว่าจะออกมาดี เช่นกลุ่มธนาคาร และพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือจะเป็นตัวถ่วงต่อทิศทางตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,560 - 1,600 จุด
ทั้งนี้ รอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต ประกอบด้วย SCB, PTTEP, PTTGC, TOP, BANPU และ TPCH
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า การตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่จะนำสหรัฐฯเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบในหลายภูมิภาคนั้น เป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งการยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศซีเรีย การบอมบ์ฐานลับกลุ่ม IS ในอัฟกานิสถาน และการเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี ต่างเป็นอะไรที่น่าจะมีการเจรจาขออนุญาตกันแล้วกับทางรัสเซียและจีนอันนำมาซึ่งการผ่านร่างงบประมาณฉบับแรกที่มุ่งเน้นความมั่นคงของประเทศและเอื้อแก่กองทัพสหรัฐฯ แต่ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ลง
เราประเมินว่ารัสเซียกับจีนน่าจะได้ประโยชน์จากการป้องปรามการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยไม่ต้องออกหน้าเอง โดยแลกกับการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯต่อไป ซึ่งภายหลังการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กลับลำออกมาบอกว่าจีนไม่ได้บิดเบือนค่าเงินเพื่ออุดหนุนการส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม จึงคาดการณ์การอ่อนลงของราคาทองคำจากการขายทำกำไรตามระดับความกังวลของตลาดที่ลดลง แต่ยังคงให้น้ำหนักการถือสถานะ long เป็นหลัก เนื่องจากความตึงเครียดในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลียังคงมีความคลุมเครือ จึงอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดโภคภัณฑ์ได้อีก โดยให้ระดับราคาทองคำ 1,275 ดอลลาร์ เป็นทั้งจุดเข้าและจุดคัท ซึ่งฝั่ง long ได้เปรียบเมื่อราคาอยู่เหนือ 1,275 ดอลลาร์ แต่ถ้าต่ำกว่านี้ให้ปรับมาเล่นในลักษณะ swing trade