ข้อมูลนักแสดง
หนึ่งในนักแสดงผู้เปี่ยมความสามารถและเป็นที่รักใคร่ในทั้งในวงการบรอดเวย์ และฮอลลีวูด จูลี แอนดรูว์ส - Julie Andrews (แคลริซ) เธอผู้นี้มีผลงานยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพยนตร์ ละครเวที โทรทัศน์ หรือผลงานเพลง ทุกผลงานสร้างชื่อเสียงให้มากมายตลอดเวลานับสิบๆ ปี ที่เธออยู่ในวงการ The Princess Diaries นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอกับ Walt Disney Pictures นับจากการเปิดตัวครั้งแรกด้วยภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins ซึ่งส่งให้เธอได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ในฐานะนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลต่างๆ อีกมากมายจาก British Academy และ New York Film Critics จากนั้น เธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอคาเดมีอวอร์ดเป็นครั้งที่สองจากบทบาทของ "มาเรีย" ในภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกที่สร้างจากละครเวทีของรอดเจอร์ & แฮมเมอร์สไตน์ The Sound of Music จากนั้น เธอก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอคาเดมีอวอร์ดอีกเป็นครั้งที่สาม จากภาพยนตร์เพลงเรื่อง Victor/Victoria ซึ่งเธอก็สามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปครองได้สำเร็จ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแอนดรูว์ส มีผลงานเรื่อง Relative Values ของ โนล โคเวิร์ด และยังร่วมแสดงเป็นตัวเองในภาพยนตร์ที่กำลังจะออกฉาย เรื่อง Unconditional Love ซึ่งมีรูเพิร์ต เอเวอเรตต์, เคธี เบตส์ และ แดน เอกบอร์นด์ แสดงนำ จากฝีมือกำกับของ พี เจ โฮแกน ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเธอนั้น ยังรวมถึง Thoroughly Modern Millie, Darling Lili, S.O.B., 10, That's Life และ Hawaii. แอนดรูว์สได้รับเสียงวิจารณ์ในทางชื่นชม และการตอบรับเป็นอย่างดีจากการปรากฏตัวครั้งแรกบนเวทีบรอดเวย์ของเธอ จากเรื่อง The Boy Friend และยังได้รับคำชมเชยเป็นอย่างมากจากการรับบทเป็น เอลิซา ดูลิตเติล ใน My Fair Lady ของเลอเนอร์และโลวี ร่วมกับ เร็กซ์ แฮร์ริสัน จากนั้นเธอก็หวนกลับมาแสดงละครบรอดเวย์เรื่อง Camelot คู่กับ ริชาร์ด เบอร์ตัน และที่ผ่านมาล่าสุด เธอได้ร่วมแสดงใน Victor/Victoria เวอร์ชันละครเวทีอีกครั้งแอนดรูว์สได้ประพันธ์หนังสือเด็กหลายเล่ม รวมทั้ง The Last of Really Great Whangdoodles และ Mandy ซึ่งยังคงครองอันดับหนังสือที่ขายดีมาตลอด 25 ปี รวมถึงผลงานเรื่อง Little Bo ชึ่งได้ออกวางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว และได้ออกจำหน่ายอีกครั้งในปีนี้ในรูปแบบของ CD ชึ่งทำยอดขายสูงสุดของ Hyperion Books ส่วนภาคต่อของ Little Bo นั้น จะวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2001 นอกจากนี้ แอนดรูว์สยังได้ร่วมประพันธ์หนังสือกับบุตรสาวของเธอเอมมา วอลตัน ในหนังสือชุดสำหรับเด็กที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก The Dumpy ชึ่งได้โทนี วอลตันเป็นผู้วาดภาพประกอบ ทาง Hyperion Books ได้วางจำหน่าย Dumpy สองภาคแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนอีกหนึ่งภาคนั้นจะออกวางในฤดูใบไม่ร่วงปีนี้ (Dumpy Saves Christmas) และตอนต่อไปจะออกในปี 2002 (Dumpy and the Big Storm)แอนดรูว์สมีผลงานซีรีส์ทางโทรทัศน์ของ ABC เรื่อง The Julie Andrews Hour ซึ่งสามารถคว้า 8 รางวัลจากการประกาศผลรางวัลเอมมีอวอร์ดได้ นอกจากนี้ เธอยังมีรายการพิเศษ Julie and Carol at Canegie Hall และ Julie and Carol Together Again ซึ่งเธอร่วมแสดงกับแครอล เบอร์เนตต์ เพื่อนของเธอเอง ที่ผ่านมา เธอได้ร่วมแสดงกับคริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ในรายการสดทางโทรทัศน์ ที่ใช้ชื่อว่า On Golden Pond แอนดรูว์สมีกิจกรรมการกุศล และการทำบุญมากมาย เธอได้รับหน้าที่เป็น United Nations Goodwill Ambassador for UNIFEM และ United Nations Development Fund for Women ด้วยในปีนี้ แอนดรูว์สได้รับรางวัลจาก The Society of Singers ในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จในอาชีพการงานของเธอ
แอนน์ แฮธาเวย์-Anne Hathaway (มีอา) กำลังมีผลงานอินดีเรื่อง The Other Side of Heaven และร่วมแสดงในซีรีส์ดรามาของ Fox เรื่อง Get Real เมื่อปีที่ผ่านมา บทเมแกน กรีนในซีรีที่ได้รับคำวิจารณ์ในทางชื่นชมเป็นอย่างมากนี้ ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Teen Choice Awards ประจำปี 2000 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Young Artist Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์ทางโทรทัศน์/นักแสดงดาวรุ่ง ของปี 2000 ด้วย แฮธาเวย์นับเป็นวัยรุ่นคนแรกที่ได้รับการยอมรับให้ร่วมแสดงในการประกาศผลรางวัล The Barrow Group in New York City และเป็นสมาชิกของ All-Eastern U.S. High School Honors Chorus ซึ่งเธอได้รับเกียรติให้ร้องนำคนแรกในการแสดงคอนเสิร์ตที่ Carnegie Hall ถึงสองครั้งแฮธาเวย์ เข้ารับการศึกษาที่ Paper Mill Playhouse ในรัฐนิวเจอร์ซี และเข้าร่วมโปรแกรมภาคฤดูร้อนเตรียมตัวก่อนเข้าวิทยาลัยที่ Collaborative Arts Project, CAP 21 ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ผลงานการแสดงที่ผ่านมา ระหว่างที่เธอเข้าร่วมกับ Paper Mill มีอาทิ Gigi, Jane Eyre และ Life on Earth นอกจากนี้ เธอยังรับบทเป็น "เจ้าหญิงวินนีเฟร็ด" ใน Once Upon a Mattress ซึ่งส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงดาวรุ่งของ Paper Mill สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมของโรงเรียนด้วยนับตั้งแต่เสร็จจากการถ่ายทำ The Princess Diaries แล้ว เธอได้เข้าเป็นน้องใหม่ในสถาบันชั้นแนวหน้าอย่าง East Coast liberal arts college ซึ่งเธอเพิ่งได้รับการตอบรับเมื่อไม่นานนี้
ฮีเธอร์ มาตาราสโซ-Heather Matarazzo (ลิลลี) เพื่อนรักของมีอา ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก จากการรับบทเป็นดอว์น ไวเนอร์ ในภาพยนตร์ตลกเสียดสีของทอดด์ โซลอนด์ซ เรื่อง Welcome to the Dollhouse ซึ่งได้รับรางวัล Grand Jury Prize สาขาภาพยนตร์ดรามายอดเยี่ยม ในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ ปี 1996 ส่วนผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของมาตาราสโซ มีอาทิ 54, The Devil's Advocate, Cherry, The Deli และ All I Wanna Do ตามปกติ มาตาราสโซจะแสดงประจำในซีรีส์ของ CBS เรื่อง Now & Again และรับบทประจำเป็นครั้งคราวใน Roseanne และ Townies
เฮคเตอร์ เอลิซอนโด-Hector Elizondo (โจเชฟ) ร่วมแสดงในผลงานทุกเรื่องของแกร์รี มาร์แชลล์ ซึ่งล่าสุดคือ ภาพยนตร์คอมเมดียอดนิยมเรื่อง Runaway Bride นำแสดงโดย จูเลีย รอเบิร์ต และริชาร์ด เกียร์ เอลิซอนโด ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและ American Comedy Award จากการรับบทเป็นผู้จัดการโรงแรมใน Pretty Woman ของมาร์แชลล์ เอลิซอนโดเพิ่งเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ Tortilla Soup ชึ่งเขาแสดงร่วมกับเอลิซาเบธ พีนา ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา มีอาทิ Entropy ที่แสดงร่วมกับสตีเฟน ดอร์ฟฟ์, Beverly Hills Cop Ill, Nothing in Common, Young Doctors in Love, The Flamingo Kid, American Gigolo, Report to the Commissioner และ The Taking of Pelham l-2-3 เอลิซอนโดได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมีถึง 5 รางวัลด้วยกัน จากผลงานทางโทรทัศน์ของเขา ซึ่งเขาเคยได้รับรางวัลเอมมี จากการรับบทเป็น ด็อกเตอร์ฟิลิป วัตเตอร์ ใน Chicago Hope ของ CBS ด้วยเอลิซอนโดเป็นที่จดจำได้ครั้งแรก เมื่อเขารับบทเป็นพระเจ้า ในละครเวทีนิวยอร์ก เรื่อง Steambath ซึ่งส่งให้เขาได้รับรางวัล Obie Award ด้วย จากนั้นเสียงชื่นชมก็มีมาถึงเขาอย่างไม่ขาดสาย เมื่อเขาแสดงในละครร้องบรอดเวย์ของนีล ไซมอน เรื่อง Prisoner of Second Avenue ตามมาด้วย The Great White Hope และ Sly Fox ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Drama Desk Award เช่นกัน ล่าสุด เอลิซอนโดร่วมแสดงในละครบรอดเวย์เรื่องเยี่ยมของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ เรื่อง The Price ร่วมกับเอลี วอลลาช ที่ Roundabout Theatre
นักร้องสาวเสียงใส แมนดี มัวร์-Mandy Moore (เลนา) เปิดตัวในวงการภาพยนตร์เป็นครั้งแรกด้วยบทของเลนา สาวสวยที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโรงเรียน ซึ่งเป็นคู่อริของมีอา ใน The Princess Diaries ด้านงานร้องเพลงนั้น อัลบัมชุดแรกของมัวร์ So Real ได้รับแผ่นแพลตินัม หลังออกวางจำหน่ายได้เพียง 3 เดือนและยังติด 1 ใน 10 ซิงเกิลยอดนิยม ด้วยเพลง Candy ด้วย ส่วนอัมบัมที่สอง I Wanna Be With You ก็ได้รับแผ่นแพลตินัมเช่นกัน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แมนดีมีซิงเกิล และวิดีโอ In My Pocket ออกวางจำหน่าย ตามมาด้วยอัลบัมชุดล่าสุดของเธอที่ใช้ชื่อตัวเธอเองเป็นชื่อชุด นั่นคือ Mandy Moore ออกวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน และได้รับแผ่นซีดีแพลตตินัมไปครองเรียบร้อยแล้วสำหรับปีที่สองในวงการมายานั้น มัวร์ร่วมเป็นพิธกรรายการ MTV ของเธอเอง ซึ่งวิดีโอของเธอก็ได้ออกฉายอย่างต่อเนื่องใน Total Request Live และเธอก็เป็นแขกรับเชิญพิเศษให้กับ 2gether ของ MTV ด้วย เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา มัวร์ได้กลับไปเป็นพิธีกรรายการสดให้กับ MTV อีกครั้ง
นักแสดงสาวชาวอังกฤษ แคโรไลน์ กูดอลล์-Caroline Goodall (เฮเลน) เธอมีผลงานภาพยนตร์อเมริกันโดยฝีมือกำกับของสตีเวน สปีลเบิร์ก มาแล้ว 2 เรื่อง คือ Hook โดยเธอรับบทเป็นมัวรา แบนนิง ร่วมกับรอบิน วิลเลียมส์ และรับบทเป็นเอมิลี ชินด์เลอร์ ร่วมกับเลียม นีสัน และเบน คิงส์ลีย์ ใน Schindler's List นอกจากนี้ เธอยังรับบทเป็นคริสตัล หญิงแสบ ประกบคู่กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ใน Cliffhanger รวมถึงร่วมแสดงกับไมเคิล ดักลาส ในบทซูแซน เฮนด์เลอร์ ภรรยาทนายความของเขา ใน Disclosure และรับบทเป็นภรรยานักเดินเรือของเจฟฟ์ บริดเจส อลิซ เชลดอน ใน White Squall ของริดลีย์ สกอตต์ด้วยในปีนี้ เธอร่วมแสดงกับแอนดี แม็กโดเวลล์ ในภาพยนตร์สงครามเรื่อง Harrison's Flowers โดยเธอรับบทเป็นโจอันนา รวมถึงรับบเป็นอีแกรน ใน Mists of Avalon ของ TNT นอกจากนี้ เธอยังมีผลงานภาพยนตร์อินดีเรื่องอื่นๆ อีก อาทิ รับบทเป็นเดบรา ใน The Family Bloom ร่วมกับเพเนโลปี แอนน์ มิลเลอร์ ร่วมแสดงกับมาร์ค ฮาร์มอน ใน Casualites และร่วมกับเดวิด อาร์เคตต์ ใน The Webbers Fifteen Minutes โดยปกติแล้ว กูดอลล์มักจะทำงานอยู่ในยุโรป และออสเตรเลีย เธอแสดงใน The Secret Laughter of Woman ร่วมกับโคลิน เฟิร์ธ และร่วมแสดงในภาพยนตร์ฝรั่งเศส เรื่อง Diamond Swords เธอเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล AFI สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากบทของเม็ก ใน Hotel Sorrento และยังเคยร่วมแสดงกับรัสเซลล์ โคร์ว ในภาพยนตร์ออสเตรเลีย เรื่อง The Silver Stallion (Brumby) ด้วยด้านภาพยนตร์โทรทัศน์ เธอได้ร่วมแสดงใน Sex and Death ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA ร่วมกับมาร์ติน คลูนส์ นอกจากนี้ เธอยังร่วมแสดงในภาพยนตร์เยอรมันร่วมกับไฮเนอร์ เลาเตอร์บาค เรื่อง Opernbal รวมถึง A Royal Celebration ร่วมกับมินนี ไดรเวอร์ และ Murder at the Mendel ของ CBC ร่วมกับแคลร์ บลูม กูดอลล์เคยรับบทเป็น "โรซาลินด์" ในมินิซีรีส์เรื่องเยี่ยมที่ได้รับรางวัลมากมาย The Sculptress ของ BBC และรับบทเป็นแอนน์ ในภาพยนตร์ทริลเลอร์ 4 ตอนจบของอังกฤษ เรื่อง Trust เธอเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล LOGIE สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก A Difficult Woman (และได้รับรางวัลมินิซีรีส์ยอดเยี่ยมจาก New York Best Miniseries Award ด้วย) รวมถึงเข้าชิงสาขาเดียวกันนี้ จาก Cassidy นอกจากนี้ เธอยังร่วมแสดงในมินิซีรีส์อีกหลายเรื่องด้วยกัน อาทิ แสดงเป็นเอมี จอห์นสัน ใน The Great Air Race และแซลลี แร็กแลน ในมินิซีรีส์ 10 ตอนของเฟรเดอริก ราฟาเอล เรื่อง After the War ซีรีส์ทางโทรทัศน์ของอเมริกาที่เธอร่วมแสดงมีอาทิ The Outer Limits, The Commish, Quantum Leap และ Remington Steele ส่วนในอังกฤษ เธอแสดงซีรีส์ร่วมกับเดวิด ซูเชต์ ใน Poirot ส่วนผลงานด้านละครเวทีนั้น กูดอลล์เคยแสดงเป็น คุณหญิงแอนน์ ใน Richard III ของ Royal Shakespeare Company ร่วมกับแอนโธนี เชอร์, Misalliance ร่วมกับไบรอัน คอกซ์ และ Heresies ของ RSC เช่นกัน เธอร่วมแสดงใน Susan's Breasts ของโจนาธาน เจ็มส์ ให้กับ Royal Court Theatre และใน Seasons ของปีเตอร์ กิล ที่ The National ส่วนผลงานละครเวทีเรื่องอื่นๆ ของเธอมีอาทิ รับบทเป็นโรซาลินด์ ใน As You Like It, Tons of Money กำกับโดยอลัน อีคเบอร์น และ While the Sun Shines ที่ The Manchester Royal Exchange ผลงานล่าสุดของเธอคือภาพยนตร์เรื่อง Murderin Mind ของ ปี บี ซี กำกับโดย เฟอร์ดินาน แฟร์แฟค
กูดอลล์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านการแสดงและภาษาอังกฤษ จาก Bristof University และเป็นสมาชิก ของ The Council For the Arts at MIT
เธอสมรสกับช่างภาพชาวอิตาเลียน นิโคลา พีโครินี ทั้งคู่มีบุตรสองคนพร้อมทั้งต้นโอลีพมากมายในเมือง ทุสคานี
รอเบิร์ต ชวาร์ตซแมน-Robert Schwartzman (ไมเคิล) รับบทเป็นพี่ชายของลิลลี ผู้ซึ่งความรักของเขาที่มีต่อมีอาต้องถูกทดสอบ จากข่าวการเป็นรัชทายาทของเธอ ชวาร์ตซแมนเคยร่วมแสดงใน The Virgin Suicides ภาพยนตร์ฝีมือกำกับของ โซเฟีย คอปโปลา รวมถึงภาพยนตร์สั้นเรื่อง Lick the Star ด้วย เมื่อไม่นานนี้ เขาเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นอีกเรื่องหนึ่ง คือ Animal Magnetism รวมถึง ร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอในซิงเกิลของเมซี เกรย์ Do Something ด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นนักร้องนำ/เขียนเพลงให้กับ Rooney วงของเขาเอง ทั้งยังเล่นกีตาร์ และคีย์บอร์ดด้วยอิริค ฟอน เดตเตน-Erik von Detten (จอช) ในบทของหนุ่มป๊อปปูล่าร์สุดๆ ของโรงเรียน และแฟนหนุ่มของเลนา ซึ่งเปลี่ยนใจมาหลงรักมีอาในทันที หลังจากทราบในภายหลังว่า เธอเป็นเจ้าหญิง
ฟอน เดตเตน เคยแสดงเป็นวอลลี คลีเวอร์ ในภาพยนตร์คอเมดีเรื่อง Leave It To Beaver และเป็นผู้ให้เสียงเป็น "ซิด" ในภาพยนตร์อนิเมชันยอดนิยมของ Walt Disney Pictures/Pixar Animation Studios เรื่อง Toy Story รวมถึง Hercules และ Tarzan ด้วย
ฟอน เดตเตน ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง Odd Man Out ของ ABC และร่วมแสดงในบทประจำให้กับซีรีส์ของ The Disney Channel เรื่อง So Weird เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดาราหน้าใหม่ จาก Hollywood Reporter จากบทบาทการแสดงในภาพยตร์เรื่อง Christmas Every Day รวมถึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ เรื่อง Brink ซึ่งเขารับบทนำด้วย นอกจากนี้ยังมีผลงานอื่นๆ เช่น A Stranger to Love, Escape to Witch Mountain, A season of Hope, In the Line of Duty: Kidnapped, Replacing Dad และมินิซีรีส์ เรื่อง In the Best of Families ฟอน เดตเตน เริ่มต้นอาชีพการแสดงใน Days of Our Lives ด้วยการรับบทเป็น นิโคลัส อลาเมน
นับตั้งแต่ ฌอน โอ ไบรอัน-Sean O' Bryan (ครูโอ คอนเนลล์) ได้ถูกเรียกเข้าเป็นนักแสดงในระหว่างการเรียนเทอมแรกในมหาวิทยาลัยนั้น เขาได้จินตนาการว่าตัวเองเป็นนักฟุตบอลอาชีพไปก่อนแล้ว และเมื่อเขาได้รับบทเป็นนักฟุตบอลในซีรีส์ของ ABC เรื่อง Brother's Keeper จึงเป็นความภูมิใจสุดยอดของเขาเลยทีเดียว
ความสามารถและประสบการณ์ของเขามิได้มีเฉพาะด้านกีฬา และการแสดงทางโทรทัศน์เท่านั้น เมื่อเขาได้รับบทนำในภาพยนตร์ตลกของ Walt Disney Pictures เรื่อง I'll Be Home for Christmas ประกบคู่กับ โจนาธาน เทเลอร์ ธอมัส ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่สร้างชื่อเสียงของเขา มีอาทิ Phenomenon ร่วมกับ จอห์น ทราโวลตร้า รวมถึง Out to Sea ของ 20th Century Fox ร่วมกับแจ็ค เลมมอน และ วอลเตอร์ แมทเธา นอกจากนี้ โอ ไบรอัน ยังได้ร่วมงานกับแกร์รี มาร์แชลล์ ในภาพยนตร์ฝีมือกำกับของมาร์แชลล์ถึง 3 เรื่องด้วยกัน คือ Dear God, Exit to Eden และ Frankie and Johnnie และเขายังมีผลงานแสดงใน Twilight of the Golds ของรอสส์ เคแกน มาร์กส์ ประกบกับเบรนแดน เฟรเซอร์, Trapped in Paradise ของจอร์จ แกลโล, Heart and SoulS ของรอน อันเดอร์วูด และ Chaplin ของริชาร์ด แอทเทนเบรอห์
โอ ไบรอันแสดงประจำในซีรีส์ของ UPN เรื่อง Pig Sty และยังเป็นดารารับเชิญในซีรีส์ยอดนิยม เช่น Providence, Family Law, Jack & Jill, King of Queens และ Chicago Hope เป็นต้น
ในละครเวที โอ ไบรอันได้ร่วมแสดงกับคณะละครที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมทั้งบทละครสองเรื่องของ เทอร์เรนซ์ แม็กนัลลี ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางชื่นชม คือ It's only a Play ที่แสดงใน Ahmanson Theatre และ The Lisbon Traviata ซึ่งแสดงที่ Mark Taper Forum ผลงานด้านละครเวทีอื่นๆ ของเขา มีอาทิ Money and Friends, Picnic, Measure for Measure, 27 Wagons Full of Cotton, The Glass Menagerie, Crimes of the Heart และ The Gingerbread Lady
ปัจจุบันนี้ ทั้งโอ ไบรอัน และซาแมนธา ภรรยาของเขา รวมถึงบุตรสาวอีก 2 คน พักอยู่ในลอส แองเจลิส
แซนดรา โอห์-Sandra Oh (ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่กัปตา) แสดงเป็นริตา วู ใน ซีรีส์ของ HBO เรื่อง Arli$$ ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัล CableACE Award รวมทั้ง Genie Award จากสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม โอห์เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Image Award ในปีนี้ จากเรื่อง Arli$$ เช่นกัน นอกจากนี้ เธอได้ยังได้รับรางวัล 2001 NAMIC Vision Award สาขานักแสดงตลกยอดเยี่ยมด้วย ความสามารถของแซนดรา มิได้จำกัดเฉพาะแนวเบาสมองเท่านั้น เมื่อเธอร่วมแสดงในภาพยนตร์ดรามาของ Fine Line เรื่อง Double Happiness ซึ่งส่งให้เธอสามารถคว้ารางวัล Canadian Genie Award ปี 1994 ในฐานะนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้ด้วย นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ของคีธ กอร์ดอน เรื่อง Waking the Dead จากการสร้างของ Egg Pictures โดยร่วมแสดงกับ บิลลี ครูดัป และ เจนนิเฟอร์ คอนเนลี รวมถึงร่วมแสดงใน Last Night ของดอน แม็กเกลลาร์ ซึ่งชนะเลิศรางวัล Prix de la Jeunnesse ในเทศกาลภาพยนตร์เมือคานน์ส ปี 1998 ด้วย รวมถึงอีกหนึ่งรางวัลจาก Genie Award ในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกด้วย ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเธอ มีอาทิ Bean, The Red Violin, Dancing at the Blue Iguana และ Permanent Midnight ตลอดจนร่วมแสดงใน A.I. ของสตีเวน สปีลเบิร์กด้วยเกิดและเติบโตในออตตาวา ออนทาริโอ แคนาดา โอห์เข้าศึกษาใน The National Theatre School of Canada ที่ซึ่งมีการประกาศรับสมัครนักแสดงในเรื่อง Diary of Evelyn Lau หลังจากนั้นหกเดือน แซนดราก็ได้รับการคัดเลือกให้รับบทนำ จนชนะเลิศรางวัล Fipa D'or Award ในฐานะนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม ใน Cannes FIPA Festival ปี 1994 นอกจากนี้ เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมของ Gemini Award เช่นกัน
นอกเหนือจากความสำเร็จในผลงานด้านทีวีและภาพยนตร์ แซนดรายังคงความสามารถด้านการแสดงละครไว้เสมอ ด้วยการเข้าร่วมอ่านบทละคร และงานเวิร์กชอปให้กับ Mark Taper Forum, Playwrights Horizon, Women's Writer's Workshop และ Lajolla Playhouse ของไมเคิล กรีฟ
แซนดราจบการศึกษาจาก National Theatre School of Canada ปัจจุบันนี้ เธออาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส และยังมีบทแสดงเป็นครั้งคราวในซิตคอมของ WB เรื่อง Popular และซีรีส์ยอดนิยมของ CBS เรื่อง Judging Amy นอกจากนี้ เธอยังมีงานแสดงภาพยนตร์โทรทัศน์ เรื่อง Further Tales of the City
แคธลีน มาร์แชลล์-Kathleen Marshall (ชาร์ลอตต์ คัทอเวย์) สำเร็จการศึกษาจาก Northwestern University ในสาขาการละคร มาร์แชลต้องจัดสรรเวลาของเธอเพื่องานแสดงภาพยนตร์ ละครเวที และงานสร้างพร้อมกำกับละครเวทีด้วย
ในฐานะนักแสดง มาร์แชลล์เคยร่วมแสดงใน Runaway Bride ร่วมกับจูเลีย รอเบิร์ต และริชาร์ด เกียร์ รวมถึงผลงานเรื่องอื่นๆ เช่น Never Been Kissed, EdTV, Duty Dating, Dear God, Twilight of the Golds ของ Showtime, Freeway, Mulholland Falls, Getting Away With Murder, As Good as Dead, Exit to Eden, A League of Their Own, Pretty Woman และ Waving Not Drowning
ในฤดูร้อนนี้ นอกจากจะมี The Princess Diaries แล้ว มาร์แชลล์ยังร่วมแสดงในภาพยนตร์ตลกของแจร์รี ซุคเคอร์ เรื่อง Rat Race ร่วมกับวูปี โกลด์เบิร์ก และคิวบา กูดิง จูเนียร์ด้วย
ด้านงานโทรทัศน์ มาร์แชลล์ร่วมแสดงใน Moesha, Night Stand, Murphy Brown และ Happy Days
ส่วนในฐานะผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ละครเวทีนั้น มาร์แชลล์คอยดูแลด้านการออกแบบและการก่อสร้างศูนย์ Falcon-Henderson Theatre ในเบอร์แบงก์/โทลูกา เลค แคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปี 1997 และยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ Falcon Theatre จวบจนศูนย์กลางละครเวทีแห่งนี้เปิดขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือนตุลาคม ปี 1997 ด้วย
ละครเรื่องโปรดของเธอที่ Falcon มีอาทิ Hansel and Gretel, Crime of the Heart และ Suburban Motel เป็นต้น
นอกเหนือจากสร้างและกำกับแล้ว แคธลีนยังสานต่องานแสดงละครเวทีของเธออีกด้วย เธอเพิ่งเสร็จสิ้นจากการแสดงละครที่ออกแสดงถึง 6 เดือนเต็ม เรื่อง Last Rites of My Mad Mother ที่ Hudson Theatre ในลอสแองเจลิส
(ยังมีต่อ)