กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัดและระดับจังหวัดสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่อย่างเป็นระบบ และมีเอกภาพ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานทุกระดับในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน เชื่อมโยงการอำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากสาธารณภัย และขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้วาระ "ประเทศไทยปลอดภัย (Safety Thailand)"
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดสาธารณภัยบ่อยครั้ง ทวีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงได้ให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยที่เป็นระบบ มีเอกภาพ โดยการขับเคลื่อนการจัดการสาธารณภัยของประเทศได้ยึดแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 เป็นกรอบแนวทางในการบูรณาการหน่วยงานทุกระดับดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เชื่อมโยงกับแผน ปภ. ชาติ และสอดคล้อง กับสภาพความเสี่ยงภัย สำหรับเป็นเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในพื้นที่ ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัดและระดับจังหวัดสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ในวันที่ 24 – 25 เมษายน 2560 ณ โรงแรม เอส ดี อเวนิว กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการสัมมนาฯ เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ และใช้เป็นแนวทางในการบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ และมีเอกภาพ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานทุกระดับในการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กลไกการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่มีเอกภาพ ภายใต้ระบบการสั่งการเดียวกัน โดยทุกหน่วยงานจะได้บูรณาการการปฏิบัติทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงการอำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากสาธารณภัย และขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้วาระ "ประเทศไทยปลอดภัย (Safety Thailand)"