กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--เอ็มเอสแอล กรุ๊ป
เพราะโลกยุคนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก นิยามของความสำเร็จก็เปลี่ยนไปเช่นกัน คนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นเจ้าของกิจการอาจไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่ แต่เราเริ่มเห็นตัวอย่างเด็กรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น และแตกต่างจนนำไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้และประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น น้องโมโน - ด.ญ.กัญญาภัค แสงสิทธิ์ เจ้าของสติ๊กเกอร์ไลน์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย และน้องเอเน่ - ด.ญ.ฐิตารีย์ วิทยถาวรวงศ์ แชมป์คนแรกของรายการเชฟกระทะเหล็กเด็ก (Iron Chef Kids) ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของเด็กสองคนนี้คือ คุณพ่อคุณแม่ที่ทุ่มเท และส่งเสริมลูกให้ก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ มีความพร้อมในการใช้ชีวิต ได้ค้นหาและทำในสิ่งที่ตัวเองรักตั้งแต่ยังเล็ก
คุณธีรพงษ์ แสงสิทธิ์ คุณพ่อน้องโมโน เผยเคล็ดลับการเลี้ยงลูกว่า "โดยส่วนตัวเชื่อว่า การให้ความสำคัญด้านโภชนาการและการเลี้ยงดูตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ขวบปีเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเข้าใจดีว่าเป็นช่วงเวลาที่สมองจะพัฒนาสูงสุด ตั้งแต่ 1 ขวบกว่าๆ เราเริ่มสังเกตุว่าน้องชอบศิลปะ การวาดเขียน จึงซื้อสมุดระบายสีและตุ๊กตาปูนปาสเตอร์มาให้ระบายสีเล่นตามประสาเด็ก เพราะคิดว่าช่วยฝึกสมอง เสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ จนพออายุประมาณ 3 ขวบน้องโมโนได้วาดภาพตัวการ์ตูนตามจินตนาการชื่อว่า 'ผีตาโบ๋' จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการนำผลงานของเขามาพัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้นและสร้างเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ 'ผีตาโบ๋' รูปแบบต่างๆ"
"สิ่งไหนที่น้องโมโนคิดหรือทำเป็นสิ่งดีมีประโยชน์ และเราคิดว่าดี ครอบครัวจะคอยให้คำชมและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เราเน้นเลี้ยงลูกภายใต้ความรัก ความเอาใจใส่ มีเวลาเล่นกับลูก คอยรับฟังสิ่งที่เขาพูดและให้คำตอบที่มีเหตุผล รวมถึงการดูแลด้านโภชนาการให้ได้สารอาหารครบถ้วน เพื่อส่งเสริมศักยภาพสมองและสติปัญญา ในด้านอารมณ์ การมีสมาธิจะสอนให้น้องไม่ก้าวร้าว และช่วยเหลือผู้อื่นทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี และมีความสุข"
ด้าน คุณชัยวัฒน์และคุณอภิรดี วิทยถาวรวงศ์ คุณพ่อคุณแม่ของน้องเอเน่ แชมป์เชฟรุ่นจิ๋ว ให้ความเห็นว่า "สิ่งสำคัญที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการของลูกคือ การเปิดกว้าง ให้โอกาส และส่งเสริมศักยภาพในตัวเขาอย่างเต็มที่ อย่างการทำอาหารเริ่มจากที่น้องเอเน่ชอบทำการทดลองวิทยาศาสตร์ เราจึงบอกเค้าว่าการทำอาหารมีส่วนคล้ายกับการทดลองวิทยาศาสตร์ ต้องศึกษาถึงคุณสมบัติ ลักษณะของวัตถุดิบ วิธีการปรุงที่หลากหลาย ใส่อะไรก่อนหลัง ไฟแรงไฟอ่อน ล้วนมีผลต่อรสชาติความอร่อย ซึ่งน้องเอเน่ก็สนุกที่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ที่สำคัญการทำอาหารเป็นกิจกรรมที่ครอบครัวได้ทำร่วมกัน คิดเมนู ลองทำลองชิม การเรียนรู้จากประสบการณ์ดังกล่าวช่วยให้เขารู้จักการคิดวิเคราะห์วางแผนและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักรับฟังความคิดเห็นหรือคำติชมเรื่องรสชาติเพื่อนำไปพัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งเขาได้นำเอาไปใช้ในการแข่งขัน Iron Chef Kids ได้เป็นอย่างดี เช่น ตอนที่ทำอาหารช้ากว่าที่คิดไว้ น้องเอเน่เลือกตัดส่วนผสมรองและการตกแต่งบางอย่างออกไป เพื่อให้อาหารเสร็จทันเวลาโดยรักษารสชาติของวัตถุดิบหลักซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญของการแข่งขันไว้ได้"
"ในอนาคตเขาจะเลือกเดินทางไหนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเอง หน้าที่ของพ่อแม่คือการสนับสนุนให้ลูกมีโอกาสได้ทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เรายังดูแลด้านโภชนาการของเขามาตั้งแต่แรกเกิด เน้นให้เขารับประทานแต่ของที่มีประโยชน์ และดื่มนมทุกวัน โดยเฉพาะนมที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองเพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกทั้งพัฒนาทั้งด้านสติปัญญา และอารมณ์"
ซึ่งความจริงนั้นการสร้างความฉลาดควบคู่ไปกับการส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ให้เด็กก้าวทันโลก คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมเลี้ยงดูลูกให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า "โภชนาการเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาที่สมบูณณ์ของลูก และ เคล็ดลับสำคัญที่เป็นหัวใจในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพสมองของลูก คือการดื่มนมแม่หรือนมที่มีสารอาหารที่พบในนมแม่ ซึ่งสารอาหารสำคัญในนมแม่นั้น มีทั้งดีเอชเอ (DHA) และเออาร์เอ (ARA) และสารอาหารสำคัญตัวใหม่ คือ เอ็มเอฟจีเอ็ม (MFGM) เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ที่อุดมด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด สารอาหารเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูก"
ศาสตราจารย์ เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น ผู้อำนวยการสถาบัน Institute of Health & Biomedical Innovation for Child Health Research Centre ประเทศออสเตรเลียเปิดเผยว่า "งานวิจัยชี้ว่า เด็กที่ดื่มนมที่เสริม เอ็มเอฟจีเอ็ม (MFGM) และดีเอชเอ (DHA) จะมีระดับสติปัญญาใกล้เคียงกับเด็กที่ดื่มนมแม่ ดีกว่าเด็กที่ดื่มนมที่มี DHA เพียงอย่างเดียว และยังช่วยเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ เช่น มีสมาธิจดจ่อมากขึ้น ไม่ก้าวร้าว และมีอารมณ์ดี" การเลี้ยงดูและโภชนาการที่เหมาะสมจะส่งเสริมให้เด็ก ทั้งคิดเก่ง และคิดดี มีความก้าวล้ำทั้งความคิดและอารณ์ สามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี จะช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิต และก้าวไปได้ไกลกว่าในโลกอนาคต
เคล็ดไม่ลับ (ปั้นลูกน้อยสู่นักธุรกิจ Start up)
- สังเกตุสิ่งที่ลูกชอบ พร้อมสนับสนุน ให้กำลังใจ
- เปิดโอกาสให้ลูกลองคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
- เสริมด้วยโภชนาการที่ช่วยพัฒนาสมอง เช่น ปลา หรือนมที่มีสารอาหารที่พบในนมแม่ โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรก
- ฝึกพัฒนาความฉลาดด้านอารมณ์ ด้วยการให้ลูกเข้าสังคม สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนาทักษะ และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสมองของลูกน้อย ได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เอนฟา สมาร์ท คลับ โทร. 02-035-1365 หรือwww.enfababy.com