กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--โฟร์ฮันเดรท
โรงงานพีแอนด์จีประเทศไทย ได้บรรลุแผนงานเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายภายในปี 2563 หรือ 2020 Goals จากการลดการใช้พลังงานที่ส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศ (Climate) ลดการใช้น้ำ (Water) และลดขยะ (waste) รวมทั้งจัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการรณรงค์ให้พนักงานได้มีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด "You Can Make a world of Difference" เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน ของทุกปีกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ
บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือพีแอนด์จีประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรธุรกิจระหว่างประเทศที่ดำเนินงานในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปีนี้พีแอนด์จีประเทศไทยจะดำเนินงานครบรอบ 30 ปีภายใต้แนวคิด "We Grow Together" ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ พร้อมกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ควบคู่กับการเติบโตด้านเศรษฐกิจ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
พีแอนด์จีประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์ฐานการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามที่มีกำลังการผลิตที่มากที่สุดอันดับหนึ่งในเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของพีแอนด์จีทั่วโลก ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ.ฉะเชิงเทรา ส่งออกแบรนด์สินค้าภายใต้ "Made in Thailand" อาทิ แพนทีน, เฮดแอนด์โชว์เดอร์,รีจอยซ์, แคล์รอล เฮอร์บัล เอสเซ้นส์, วิดัล แซสซูน, โอเลย์ เป็นต้น โดยมีมูลค่าส่งออกมากกว่าหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐไปสู่ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และในอีกหลายประเทศในต่างภูมิภาค
นางจุฑาภัทร บุณย์วงศกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนโรงงานพีแอนด์จีให้เติบโตเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคเอเชียแปซีฟิกว่า "เราให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยมาตราฐานคุณภาพสินค้าระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆของผู้บริโภค และให้เกิดความพอใจสูงสุด ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคคลากรที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา เพศ ความคิด ผนึกรวมเป็นจุดแข็งองค์กรพีแอนด์จี ให้มีความก้าวหน้าในองค์กรอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้ง การให้ความร่วมมือสนับสนุน หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในระยะยาว"
พีแอนด์จีมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ให้ได้100% การผลิตที่ใช้วัตถุดิบ/บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลให้ได้ 100% และลดขยะของเสียในหลุมฝังให้เหลือศูนย์ (Zero Waste) เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาว จึงได้กำหนดเป้าหมาย 2020 (พ.ศ. 2563) เพื่อที่จะลดการใช้พลังงาน น้ำ และลดปริมาณขยะ ในอัตราร้อยละ 20
นายกิติโรจน์ ธรรมรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตั้งแต่ปี 2552 โรงงานพีแอนด์จีได้ลงทุนปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าลงมากกว่า 37% หรือนับเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับ 960,000 ครัวเรือนต่อปี, ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตกว่า 36 % หรือเทียบเท่าปริมาณน้ำจำนวน 360 สระมาตรฐานโอลิมปิกต่อปี และสามารถลดขยะได้มากถึง 31 % ซึ่งขยะของเสียเหล่านั้นกว่า 150 ตัน ได้ผ่านกระบวนการ 3 R คือ Reduce, Reuse, Recycle เช่นโครงการสนามเด็กเล่นรีไซเคิลจากขวดแชมพู เป็นต้น"
คุณกิติโรจน์ กล่าวต่อไปว่า "ในอนาคตอันใกล้นี้ ทางโรงงานพีแอนด์จีจะนำโครงการพลังงานชีวมวล (biomass project) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำผลผลิตจากการเกษตรภายในประเทศ เช่น แกลบ, ชานอ้อย, กากปาล์ม, กากมันสำปะหลัง, กาบและกะลามะพร้าว และอื่นๆ มาใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนทดแทนการใช้น้ำมัน (Renewal Energy)ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในโรงงาน อย่างยั่งยืน"
นางกรรณิการ์ จรัสอุไรสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า "พีแอนด์จีเราให้ความสำคัญกับภารกิจบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่การทุ่มเทงานวิจัยพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ภายในองค์กรพีแอนด์จีทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยได้จัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์คุ้มครองโลก (Earth Week) ภายใต้ธีม'You Can Make A World of Difference' เพื่อให้พนักงานของเราได้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ในวันคุ้มครองโลก แต่ในทุกๆวัน และส่งต่อไปยังสมาชิกในครอบครัว เพื่อน และคนรอบข้างอีกด้วย"