กทม.เปิดโครงการสัมมนาก่อนเกษียณเผยแนวทางใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข

ข่าวทั่วไป Friday April 20, 2001 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.44) เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาก่อนเกษียณอายุราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2544 ซึ่งทางสถาบันพัฒนาข้าราชการกทม. ร่วมกับกองการเจ้าหน้าที่ กองประชาสัมพันธ์ และกองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานครจัดขึ้นสำหรับผู้ที่จะกำลังเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.44 นี้ จำนวนทั้งสิ้น 716 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ 138 คน ข้าราชการครู 229 คน และลูกจ้างประจำ 349 คน
นางวิบูลวรรณ สุขสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการกทม. กล่าวว่า การจัดโครงการสัมมนาก่อนเกษียณอายุราชการมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ที่กำลังจะเกษียณฯ ได้รับความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเงินบำเหน็จบำนาญ การใช้ชีวิตให้สุขกาย สบายใจ ปลอดโรคภัย โดยได้จัดให้มีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทัศนคติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตหลังเกษียณต่อไป การสัมมนาจะแบ่งออกเป็น 6 รุ่น มีการสัมมนาแบบไป — กลับ จำนวน 2 วันทำการและพักค้างที่ต่างจังหวัด 3 วัน 2 คืน หลังจากจบการสัมมนาผู้เกษียณอายุจะได้รับมอบประกาศเกียรติคุณจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อเชิดชูเกียรติข้าราชการและ ลูกจ้าง ผู้เกษียณอายุทุกคนที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับกรุงเทพมหานคร โดยมีกำหนดรับมอบประกาศเกียรติคุณในวันที่ 13 ก.ย.44
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ข้าราชการและลูกจ้างของกทม.ทุกคนถือเป็นผู้ที่ทำคุณให้กับแผ่นดินและกทม. แต่เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของทุกอย่างอยู่ด้วยกัน ทั้งความเจริญและความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ข้าราชการกทม.ในฐานะของนักปกครองและผู้ให้บริการแก่ประชาชนจึงมีภาระหนักมาก ต้องผ่านปัญหาอุปสรรคมากมายในถนนสายราชการ ซึ่งมีทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตา เมื่อถึงวาระที่เกษียณอายุถือว่าได้เดินทางมาถึงเส้นชัยอย่างสง่างาม โดยไม่มีชนักติดหลังหรือจุดด่างพร้อยให้คนอื่นตำหนิติติง และเมื่อถึงเส้นชัยแล้วยังต้องเดินต่อไป แต่ต้องมีการวางแผนชีวิตว่าจะทำอะไร อย่างไร ดีที่สุดคือการพักผ่อน แต่หลายคนยังมีไฟ และสมองที่เข้มแข็ง ยังสามารถทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้ จึงหวังให้เป็นสมองของกทม.ชี้แนวทางให้กับข้าราชการรุ่นหลังต่อไป อย่างไรก็ตามการเกษียณอายุราชการนั้นถือเป็นสัจธรรมของชีวิตจึงต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึง โดยการเตรียมตัวเตรียมสุขภาพกายให้เข็งแรงอยู่เสมอ เตรียมใจรับสถานภาพใหม่ การมีจิตใจที่เข็มแข็ง และเตรียมงาน วางแผนชีวิตหลังเกษียณว่าจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม ทั้งนี้การเกษียณอายุราชการถือเป็นก้ารพ้นภาระอันเหน็ดเหนื่อยไปสู่ชีวิตอิสระ ไม่มีลูกน้อง ไม่มีผู้บังคับบัญชาสั่งให้เดิน ไม่ต้องอยู่ในระเบียบ กติกาอีกต่อไป โอกาสนี้ปลัดกทม.ได้กล่าวขอบคุณผู้เกษียณอายุทุกคน ซึ่งถือเป็นผู้มีพระคุณต่อองค์กรกทม. ที่มีส่วนทำให้กทม.เติบใหญ่จนถึงทุกวันนี้ โดยทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดในถนนสายราชการจนถึงจุดหมายปลายทาง--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ