กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การขาดแคลนน้ำในพื้นที่การเกษตรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้มีการปรับแผนปฏิบัติภารกิจในการปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคใต้ มาปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเร่งด่วน
นายสุรสีห์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ไปจนถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีเกษตรกรขอรับบริการฝนหลวงในพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะพืชไร่ ซึ่งกำลังประสบปัญหาความแห้งแล้ง การขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงปรับแผนการปฏิบัติภารกิจการทำฝน โดยจะย้ายเครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ จากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ไปสนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ การปรับแผนปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเติมน้ำในเขื่อนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เช่นกัน
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือวันที่ 19 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา พบว่า มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณ อำเภอหนองกุงศรี สหัสขันธ์ ท่าคันโท คำม่วง สามชัย และบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอกุดบาก ภูพาน นิคมน้ำอูน โพนนาแก้ว กุสุมาลย์ พรรณานิคม อำเภอเมืองสกลนคร และบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อน น้ำพุง เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร รวมถึง อำเภอศรีสงคราม นาหว้า ท่าอุเทน โพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ที่ขอรับบริการฝนหลวงทั่วทุกภูมิภาค กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงปฏิบัติภารกิจช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย พร้อมทั้งเฝ้าติดตามสถานการณ์ในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนและเพิ่มความชุ่มชื้นต่อไป นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้าย