กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) วันนี้ แถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่เข้ามารับภารกิจสานต่อจากนายรัมย์ เหราบัตย์ ที่เกษียณอายุการทำงาน เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ยังคงเป้าหมายตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นชอบ โดยบริษัทฯ จะต้องเร่งสร้างกำลังผลิตเทียบเท่าให้เติบโตถึง 7,500 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งบริหารสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาการเติบโตของรายได้ โดยมุ่งเน้นที่โรงไฟฟ้าสินทรัพย์หลัก ได้แก่ โรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าหงสาใน สปป. ลาว กลุ่มโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น และกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันกำลังผลิตให้เพิ่มขึ้นอีก 7,000 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งเตรียมแผนการจัดหาเงินรองรับการลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้า หรือปี 2570 เพื่อรักษาและเสริมสร้างฐานธุรกิจของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและมั่นคงต่อเนื่อง
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปีนี้จะยังคงยึดเป้าหมายเดิม แต่ก็ได้กำหนดเป้าหมายท้าทายเพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีก7,000 เมกะวัตต์ในปี 2570 ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป แนวทางการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะใช้รูปแบบการซื้อและควบรวมกิจการให้มากขึ้น เพื่อลดระยะเวลาการพัฒนาโครงการและสามารถรับรู้เมกะวัตต์และรายได้ในทันที ส่วนการลงทุนแบบพัฒนาโครงการหรือ กรีนฟิลด์ จะมุ่งเน้นโครงการประเภทพลังงานทดแทน เพราะระยะเวลาพัฒนาโครงการสั้นเพียง 1-3 ปี ด้านเป้าหมายการลงทุนได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมตั้งแต่ ธุรกิจไฟฟ้า เชื้อเพลิง พลังงานทดแทน สาธารณูปโภค ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบสนองกระแสโลกในอนาคต เช่น ธุรกิจสีเขียว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานทดแทน เป็นต้น
"บริษัทฯ ได้ขยายเป้าหมายจากเดิมที่ต้องสร้างกำลังผลิตให้เติบโตอีกประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 เป็น 7,000 เมกะวัตต์ในปี 2570 เพื่อรักษาความมั่นคงของบริษัทฯในระยะยาว สำหรับแผนงานหลักที่จะต้องดำเนินการให้ก้าวหน้าต่อเนื่องในปีนี้มี 3 เรื่องด้วยกัน คือ การติดตามโครงการที่กำลังพัฒนาและก่อสร้างจำนวน 6 โครงการ รวม 537 เมกะวัตต์ให้แล้วเสร็จสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดเวลา
การปรับปรุงประสิทธิภาพความเชื่อถือได้และความสามารถในการการพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าที่เป็นสินทรัพย์หลัก เพื่อให้สร้างรายได้ได้ตามประมาณการ ส่วนการลงทุนจะเร่งหาโครงการในต่างประเทศ พร้อมทั้งปรับวิธี
ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนโครงการให้สอดคล้องกับปัจจัยและสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศให้มากขึ้น ผมจะนำความรู้และประสบการณ์มาเสริมการทำงานของราชบุรีโฮลดิ้งให้เข้มแข็งและนำพาบริษัทฯ ไปให้ถึงเป้าหมายให้สำเร็จ ผมเชื่อมั่นว่า ราชบุรีโฮลดิ้ง จะสามารถเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งและยังคงดำรงความเป็นผู้นำธุรกิจของประเทศไทยได้ต่อไปในระยะยาว" นายกิจจา กล่าว
ปัจจุบัน ราชบุรีโฮลดิ้ง รับรู้กำลังผลิตจากการลงทุน รวม 6,980 เมกะวัตต์ โดยเป็นกำลังผลิตในประเทศ 4,948.59 เมกะวัตต์ และต่างประเทศ 2,031 เมกะวัตต์ หากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Riau ในอินโดนีเซียดำเนินกระบวนการลงทุนสำเร็จกำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 7,115 เมกะวัตต์