กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้จัดงานสัมมนาแนะนำนักลงทุนเลือกตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นเป้าหมายการลงทุนในปีนี้ หลังเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวชัดเจน พร้อมแนะนำกองทุนเปิดทิสโก้ เจแปน แอคทีฟ อิควิตี้ เน้นลงทุนหุ้นญี่ปุ่นแบบเชิงรุก ตั้งเป้าเอาชนะตลาด IPO ถึง 28 เม.ย. นี้
นายสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ. ทิสโก้ (Mr. Supongvorn Mianpoka, Head of Global Investment, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวในงานสัมมนา "Japan Insight: เจาะลึกตลาดแดนอาทิตย์อุทัย ลงทุนอย่างไรให้กำไรเหนือกว่าตลาด" ว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในปีนี้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากการปฏิรูปเศรษฐกิจตามนโยบาย Abenomics ที่เริ่มเห็นผลชัดเจน และการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ รวมไปถึงการผลิตและการส่งออกที่ฟื้นตัวตามการค้าโลก นับเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว
"ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น บวกกับแนวโน้มค่าเงินเยนอ่อนค่าจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขณะที่ Valuations ในปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับไม่แพงมาก จึงนับเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนนอกจากนี้ ในปัจจุบัน นโยบายการซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีมูลค่ารวมกันถึง 5.7 ล้านล้านเยนในปี 2016 สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 และนโยบายการเข้าซื้อETF ในตลาดหุ้นญี่ปุ่นของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ที่ประมาณ 6 ล้านเยนต่อปี รวมถึงแนวโน้มการเข้าลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นของกองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาลญี่ปุ่น(GPIF) ซึ่งเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นในประเทศเป็น 23.7% นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงทุนในเดือน ต.ค. ปี 2014 และมีโอกาสจะทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น 25% ในอนาคต ทำให้มี Fund Flow จากนักลงทุนในประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง" นายสุพงศ์วร กล่าว
ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้กำลังเปิดตัวกองทุนใหม่ คือ "กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน แอคทีฟ อิควิตี้" (TISCO Japan Active Equity: TISCOJPA) กองทุนรวมประเภท Fund of Funds ซึ่งเสนอขายครั้งแรก (IPO) ถึงวันที่ 28 เม.ย. 60โดยเป็น กองทุนที่มีนโยบายบริหารเชิงรุก (Active Fund) ซึ่งจะลงทุนในกองทุน Japan Equity Fund บริหารโดยJPMorgan Funds และ Japan Smaller Companies Fund ซึ่งบริหารโดย Eastspring Investments อย่างละ 50% โดยทั้งสองเป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนของทิสโก้คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีอ้างอิง และเนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือTISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4