กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กันตนา กรุ๊ป
กันตนาย้ำภาพผู้นำรายการเรียลลิตี้เมืองไทย โชว์ความสำเร็จรายการ “บิ๊ก บราเธอร์ ไทยแลนด์” กระแสตอบรับจากประชาชนท่วมท้นตลอด 105 วัน ได้ “ตุ้ย” หนุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากอำเภอแม่กลอง เป็นเดอะวินเนอร์คนแรกของไทยและเอเชีย รับรางวัลเกือบ 4 ล้านบาท
ประกาศผลกันไปเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.) สำหรับผู้ที่ได้เป็น เดอะ วินเนอร์ ของรายการ “บิ๊ก บราเธอร์ ไทยแลนด์” ซึ่งบรรยากาศของการประกาศผลเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน และอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยเหล่าบรรดาแฟนคลับที่มาคอยชม คอยเชียร์ และให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขัน 3 คนสุดท้ายของบ้านบิ๊ก บราเธอร์ คือ นายโสภณ ศรีสกุล หรือ แห้ว ครีเอทีฟ, น.ส.พิมพ์จักร ชิวารักษ์ หรือ พิม นักศึกษาจากออสเตรเลีย และ นายนิพนธ์ เพิกทิม หรือ ตุ้ย หนุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากอำเภอ แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ผู้คว้าเดอะวินเนอร์ด้วยผลโหวตทิ้งห่างคู่แข่งโดยมีคะแนนสูงถึง 70.74 เปอร์เซ็นต์ ได้รับเงินสด 1 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง และรถยนต์มาสด้า 3 อีก 1 คัน รวมมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท และในช่วงสายของวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา กันตนา ได้เปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์เปิดใจ เดอะ วินเนอร์คนแรกของบิ๊ก บราเธอร์ ไทยแลนด์ อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเพื่อนๆ ทั้ง 11 คน ที่โรงแรม ดิ เอ็มเมอรัลด์ รัชดาฯ โดยมีสื่อมวลชนมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
นางศศิกร ฉันท์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยถึงความสำเร็จของรายการบิ๊ก บราเธอร์ ว่า “นับตั้งแต่รายการเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม ถือว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากทั้งในแง่จำนวนผู้ชมและเรตติ้งของรายการ รายการบิ๊ก บราเธอร์ ซีรีส์แรก ประสบความสำเร็จเพราะ Feedback ออกมาดี ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมหรือ in กับรายการค่อนข้างมาก และการที่ตุ้ยชนะแสดงให้เห็นถึงความนิยมของคนไทยว่าชอบคนตรง คนซื่อ ทั้ง 12 คน ที่ แข่งขันมีสัญญาเป็นผู้ร่วมรายการบิ๊ก บราเธอร์ กับกันตนา 1 ปี แต่สามารถรับงานจากที่อื่นได้ เพียงแต่กันตนาจะดูความเหมาะสมให้ และต้องเป็นงานที่ไม่ขัดแย้งกับกิจกรรมของบิ๊ก บราเธอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นกิจกรรมเพื่อสังคม รายการบิ๊ก บราเธอร์ ไม่ได้สร้างให้ 12 คน เป็นนักแสดง เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องเป็นนักแสดง เพราะหากเราจะต้องสร้างนักแสดงเราต้องมีวิธีการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน อีกแบบหนึ่งไม่ใช่แบบนี้ คือทุกคนยังสามารถไปดำเนินชีวิตหรือประกอบอาชีพของตนเองต่อไปได้
สำหรับการทำเรียลลิตี้ในฟอร์แมทใหม่ คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวได้ในเดือนหน้า ซึ่งจะออกอากาศในช่วงเวลาเดิมทั้งทางยูบีซีและไอทีวี โดยต้องรอให้ AF2 จบในวันที่ 9 ต.ค. นี้ก่อน รายการเรียลลิตี้รูปแบบใหม่นี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณษตัดสินใจว่าจะออกมาในรูปแบบใด และต้องซื้อลิขสิทธิ์จากประเทศใด
แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นรูปแบบรายการเรียลลิตี้ที่เป็นการประกวดค้นหานักแสดง อย่างไรก็ตาม เรากำลังพิจารณารูปแบบเรียลลิตี้ที่เป็นการดำเนินธุรกิจด้วย ซึ่งมีหลายบริษัทที่เสนอเข้ามา ทั้งนี้การลงทุนทำ เรียลลิตี้ในฟอร์แมทต่อไป งบลงทุนน่าจะลดลงถึงครึ่งหนึ่งจากครั้งแรก เพราะได้ลงทุนด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ และได้เรียนรู้ know how ด้านโปรดักชั่นไปแล้ว
ขณะที่ ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม เดอะวินเนอร์จากรายการบิ๊ก บราเธอร์ ไทยแลนด์ กล่าวถึงความรู้สึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณผู้ชมทั่วประเทศที่ช่วยโหวต ช่วยเชียร์ และช่วยส่งกำลังใจมาให้ผม ทำให้ผมมีโอกาสดีๆ ในชีวิตเกิดขึ้น ตอนที่พี่ตั้วกำลังจะประกาศชื่อคนที่ได้เป็นเดอะ วินเนอร์ ตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก ตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิตเลยครับ ซึ่งพอพี่ตั้วประกาศว่า เป็นผม ผมไม่สามารถบรรยายได้ว่าความรู้สึกมันเป็นแบบใด รู้แต่ว่าผมดีใจมากๆ มันเป็นเหมือนความฝัน
สำหรับเงินรางวัลที่ได้ผมจะใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ฟุ้งเฟ้อ เพราะผมเชื่อว่าแม้จะมีเงินมีฐานะเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าเราไม่รู้จักประหยัดไม่รู้จักใช้สอยเงินที่มีก็อาจจะสูญสิ้นไปหมด ซึ่งตลอดระยะเวลา ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านผมได้ใช้ความเป็นตัวของตัวเองเข้าหาเพื่อนๆ ใช้ความจริงใจแลกความจริงใจ ผมถือว่าโชคดีที่พี่ๆ ทุกคนเปิดโอกาสให้ผมได้เข้าไปใกล้ชิด ให้ความสนิทสนม ให้ใจ และที่สำคัญทุกคนให้มิตรภาพที่ดีแก่ผม สิ่งนี้แหละที่ผมคิดว่ามันมีค่าเหนือกว่าสิ่งใดๆ
ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม ผมจะเป็นคนเปิดเผยและจะบอกคนอื่นเองว่าผมเป็นคนยังไงไม่ต้องมามองผมว่าผมจะเป็นคนยังไง แต่ผมจะเปิดเผยเอง จุดนี้อาจจะทำให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้ผม อยู่ในบ้านผมไม่เคยเสแสร้ง เกลียดก็เกลียดชอบก็ชอบ ไม่คือไม่ ทำคือทำ เล่นคือเล่น ตรงนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งก็ได้ที่ประชาชนเลือกให้ผมมาอยู่ยืนถึงจุดนี้
หลังจากจบภารกิจทุกสิ่งทุกอย่างผมก็จะไปไปใช้ชีวิตอย่างที่ผมฝันเอาไว้คือ ตั้งใจจะนำเงินรางวัลที่ได้ไปปลูกบ้านให้พ่อแม่ผมอยู่ หลังจากนั้นผมก็จะเอาเงินไปทำในสิ่งที่ใจต้องการนั่นคือ เอาไปเป็นทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อ เพราะตอนนี้ผมกำลังเรียน ก.ศ.น. เอาวุฒิม. 3 ผมฝันอยากจะเรียนมากๆ เพราะผม ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่มีเวลา ผมต้องช่วยครอบครัวทำกิน ส่วนสาขาที่จะเรียนผมจะเรียนต่อ ในสายอาชีพเกี่ยวกับช่างยนต์ ผมสนใจและชอบเรื่องเครื่องยนต์ตั้งแต่เด็กๆ ผมจึงอยากหาความรู้ และนำความรู้มาใส่ในหัวเยอะๆ ด้วยการไปเรียนให้เต็มที่
เรื่องวงการบันเทิงถ้าถามว่าชอบไหมก็ตอบได้เลยว่าชอบ ซึ่งถ้ามีคนมาเสนอก็คงจะต้องดูอีกที เพราะตอนนี้ผมเป็นคนของประชาชนจึงอยากจะให้ความสุขและตอบแทนประชาชนกลับไปบ้างให้เขาได้มีความสุข รู้สึกดีใจและภูมิใจที่มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น ไปไหนก็มีแต่คนทักทาย
ตอนนี้ผมคิดว่าผมประสบความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สูงสุดของชีวิตนะครับ เพราะความฝันของผมคือ ต้องเรียนให้จบ มีงานทำที่มั่นคง มีครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข สิ่งเหล่านั้นคือความสำเร็จสูงสุดของชีวิตผมครับ”
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : โทร. 0 2274 4961, 0 2691 6305
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--