กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--เซ็นทรัลพัฒนา
เซ็นทรัลพัฒนา เปิดศักราชใหม่ก่อนใครรุกครั้งยิ่งใหญ่ ทุ่ม 8,500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ล่าด บนทำเลทองบนถนนแจ้งวัฒนะและริมหาดพัทยา
เซ็นทรัลพัฒนา เปิดตัวยิ่งใหญ่ 2 โครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่ ขนาดใหญ่บนทำเลทองแจ้งวัฒนะและริมหาดพัทยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เพื่อรองรับศักยภาพการซื้อมหาศาล
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา กล่าวว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการพัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ด้วยผลงานตลอด 25 ปีที่ผ่านมา จึงได้เปิดตัว 2 โครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลทองถนนแจ้งวัฒนะและริมหาดพัทยา ซึ่งทั้ง 2 โครงการศูนย์การค้านร้ พร้อมขายพื้นที่ต้นปี 2549 เริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 2 กลางปี 2549 และสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายน 2551
"โครงการเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ"
โครงการเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนทำเลทองถนนแจ้งวัฒนะ บนพื้นที่ 24 ไร่ โดยมีพื้นที่ก่อสร้าง 3 แสนตารางเมตร มีมูลค่าโครงการกว่า 4,500 พันล้านบาท โดยประกอบโครงการศูนย์การค้าครบวงจร จำนวน 5 ชั้น, อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าจะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พร้อมทั้ง Anchor ต่างๆ อาทิ Tops, B2S, Power Buy, Super Sports, ออฟฟิศ ดีโป้, และโรงภาพยนตร์พร้อมทั้งเอนเตอร์เทนเมนครบครันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโบว์ลิ่ง, คาราโอเกะที่จอดรถกว่า 3 พันคัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเช่นเดียวกับทุกศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา และที่สำคัญยังเป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจร ทันสมัย และที่ใหญ่ที่สุดในย่านกรุงเทพด้านตะวันตกเฉียงเหนือและจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีขนาดใหญ่เทียบเท่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว
จุดเด่นและศักยภาพของโครงการที่สำคัญคือ ในเร็วๆ นี้ จะมีศูนย์ราชการกรุงเทพมหานครถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และข้าราชการมากกว่า 20,000 คน โดยมีหน่วยงานทั้งหมด 28 แห่ง 6 กระทรวง 10 กรม 12 หน่วยงานอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์ราชการที่ใหญ่ที่สุด
ศักยภาพอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ เชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะ ตรงบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายทำให้ลูกค้าที่เดินทางเข้ามา Shopping จากทางบางบัวทอง บางใหญ่ ปทุมธานี สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ เข้ามาใช้บริหารในศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการขยายตัวของศูนย์การประชุมนานาชาติ อีกกว่า 60,000 ตารางเมตร สำหรับการจัดงานอีกมากมาย และจึงถือว่าบริเวณพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ประชากรหนาแน่นมากอีกแห่งหนึ่งที่มีกำลังซื้ออย่างมหาศาล
"โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พัทยา บีช"
อีกโครงการหนึ่งคือศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พัทยา บีช มีมูลค่าโครงการ 4,000 พันล้านบาท ขนาดที่ดินโครงการ 22 ไร่ พื้นที่ก่อสร้าง 2 แสนตารางเมตร โดยมีส่วนประกอบ โครงการศูนย์การค้าครบวงจรทันสมัยและเป็น Regional Shopping Mall ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เพื่อรองรับลูกค้าคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้พักอาศัยในละแวกเมืองพัทยาและจังหวัดใกล้เคียงตลอดจนกลุ่มลูกค้าจากระยอง จันทบุรี และตราด ศูนย์การค้าจะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Anchor ต่างๆ อาทิ Tops, B2S, Power Buy, Super Sports, โรงภาพยนตร์พร้อมทั้งเอนเตอร์เทนเมนครบครันหลากหลายรูปแบบ นอกจากศูนย์การค้าแล้วยังมีโรงแรมและ Service Apartment จำนวนกว่า 700 ห้อง พร้อมห้องจัดเลี้ยง เพื่อสอดคล้องกับเมืองพัทยา ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และมีที่จอดรถกว่า 2,000 พันคัน โดยแบ่งเป็นคนท้องถิ่น Local 40% นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ 60%
สำหรับจุดเด่นของโครงการและกำลังซื้อมหาศาลจากนักท่องเที่ยวเมืองพัทยา ทำเลอยู่จุดกึ่งกลางตัดชายหาดพัทยารายล้อมไปด้วย คอนโดมีเนียม ย่านธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ลักษณะของโครงการเป็นอาคารทั้งหมด 200,000 ตารางเมตร เป็นอาคาร 5 ชั้น รูปแบบ เป็น Regional Shopping Mall ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เพื่อรองรับความเจริญเติบโตของเมืองมีมากขึ้น
เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดดำเนินในปีหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ภาคตะวันออกนี้จะมีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว สนามบินสุวรรณภูมิ จะส่งผลให้มีนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะมีความสะดวกจากสนามบิน ไปสู่เมืองพัทยาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เป็นผู้นำทางธุรกิจหลัก ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของเมืองชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกมีความเจริญเติบโต เพราะธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้กับภาคตะวันออก จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของธุรกิจโรงแรม คอนโดที่พักอาศัย ตลอดจนโครงการบ้านพักอาศัยมีอัตราการขยายตัวมาโดยตลอดในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่าน
ในอนาคตอันใกล้นี้พัทยา จะกลายเป็น Hub แห่งหนึ่งของธุรกิจซึ่งในละแวกนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ การท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าจุดศูนย์กลางการค้าน่าจะอยู่ที่เมืองนี้ได้ น่าจะตอบรับกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น คาดว่าโครงการนี้จะได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมากเนื่องจากศักยภาพที่ได้กล่าวมาซึ่งจะถูกจารึกให้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการค้าปลีกไทยในภาคตะวันออก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน ศิริรัตน์ วจะรักษ์เลิศ
โทร. 02-264-5555 ต่อ 1306, 1352-1355 รัชดาภรณ์ บุญต่อ
โทรสาร 02-264-5555 ต่อ 4100-4115 สุพรรณี ตันเอี่ยม
Call Center 02-635 1111 สลิลลา เศวตเศรนี
pr.ho@centralplaza.co.th--จบ--