กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) ไฟเขียวรับมติปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท กำหนดรับทรัพย์วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้เพิ่มอายุไม่เกิน 5 ปี วงเงิน 1,500 ล้านบาท รองรับการขยายการลงทุนในอนาคต "บุญ ชุน เกียรติ"ตอกย้ำปีนี้พลิกฟื้นธุรกิจกลับมาโดดเด่นและมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น หลังทยอยรับรู้รายได้จาก 3 โครงการใหญ่ มูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาท
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) (CHEWA) เปิดเผยถึงผลการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ว่า มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานงวดปี 2559 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในครั้งนี้ 22,500,000 บาท
ทั้งนี้ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560
นอกจากนี้ ยังมีอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 1,500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งเป็นหุ้นกู้ทุกประเภทและทุกรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออกและเสนอขายหุ้นกู้นั้นๆ เพื่อใช้เสริมสภาพคล่อง หรือใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้ระยะยาวสำหรับพัฒนาโครงการปัจจุบันและโครงการใหม่ รวมทั้งรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ
"ผมในฐานะผู้บริหารของ CHEWA ต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ผมสัญญาว่าจะมุ่งทำงานสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเต็มความสามารถ โดยจะยังคงมุ่งเน้นผลักดันให้ผลการดำเนินงานในทุกภาคส่วนของธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตในส่วนของอัตรากำไรสุทธิ หรือ รายได้รวม เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวต่อผู้ถือหุ้น" นาย บุญ ชุน เกียรติ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ และโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์อโศก มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์จากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมที่ยังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย