กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
วันที่ 27 เมษายน 2560 เวลา 11.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรับฟังปัญหาการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรจากเกษตรกร พร้อมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติภารกิจฝนหลวงในการสนับสนุนการทำฝนให้กับพื้นที่ปาล์ม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นปาล์มแปลงใหญ่ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุรสีห์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์พื้นที่ปาล์มแปลงใหญ่ ของเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า เกษตรกรมีความต้องการน้ำให้กับต้นปาล์มอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอนอกจากการใช้ปุ๋ยด้วยแล้ว น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต มีผลผลิตดี และเพิ่มผลผลิตได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งปาล์มเป็นพืชที่ขาดน้ำเหมือนพืชชนิดอื่นไม่ได้ เพราะ จะทำให้ผลผลิตลดลง ใช้เวลานานในการรอการเก็บเกี่ยว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเรื่องต้นทุนการผลิตต่อไปด้วย กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงต่อยอดการสนับสนุนช่วยเหลือจากความต้องการดังกล่าว โดยการนำเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่แปลงใหญ่มาร่วมเป็นอาสาสมัครฝนหลวง พร้อมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง การปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคใต้ ให้เกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวงเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อ การปฏิบัติภารกิจ ที่จะต้องมีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและเหมาะสมต่อการก่อตัวของเมฆ จึงจะสามารถช่วยให้ภารกิจบรรลุผลสำเร็จได้ ทั้งนี้ จะมีการประสานกับอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรจากการขอรับบริการฝนหลวงและเติมน้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยจาก การปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม – 26 เมษายน 2560 มีการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 52 วัน 838 เที่ยวบิน (1232 : 55 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 713.10 ตัน จังหวัดที่มีรายงาน ฝนตกรวม 54 จังหวัด และทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 152.34 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ประชาชนและเกษตรกรที่ต้องการขอรับบริการฝนหลวง สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคต่างๆ พร้อมสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารฝนหลวงได้ที่เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้าย