กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน
อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน เผยผลประกอบการปี 2559 และตัวเลขไตรมาสแรกปีนี้ โดยปีที่ผ่านมาอาคเนย์แคปปิตอลทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจรถเช่าองค์กร มียอดรถเช่าในพอร์ต 13,843 คัน ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีรายได้เพิ่มขึ้น 25% จาก 1,558 ล้านบาท ในปี 2558 เป็น 1,958 ล้านบาท ในปี 2559 สำหรับอาคเนย์ประกันภัย มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 47% ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 6 ส่วนอาคเนย์ประกันชีวิต มีอัตราการเติบโตของเบี้ยรับรายใหม่เพิ่มสูงถึง 39% และเบี้ยประกันรับรวมเติบโต 24% อยู่ที่อันดับ 11
นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน กล่าวว่า "อาคเนย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ที่เราได้หวางแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ของทั้ง 3 สายธุรกิจ โดยเน้นกลยุทธ์วิน-วิน ดึงจุดแข็งการเป็นเครือข่ายกลุ่มทีซีซี เชื่อมโยงเน็ตเวิร์ก ซึ่งปัจจุบันอาคเนย์แคปปิตอลสามารถครองอันดับ 1 ในธุรกิจรถเช่าองค์กร ส่วนอาคเนย์ประกันภัยอยู่ที่อันดับ 6 ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 11 ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี และอาคเนย์ประกันชีวิตอยู่ที่อันดับ 11
เบื้องหลังความสำเร็จของอาคเนย์ นอกจากการตั้งเป้าหมายและวางกลยุทธ์อย่างชัดเจนแล้ว เรายังเน้นการทำงานและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลักการทำงานดังกล่าวนี้เองนำไปสู่การสอดประสานกันอย่างมีกลยุทธ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจากทุกสายธุรกิจให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการขาย จะเห็นได้ว่าอาคเนย์ประกันภัยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีเบี้ยประกันรถยนต์ เพิ่มขึ้น 53% จาก 4,338 ล้านบาท ในปี 2558 เป็น 6,618 ล้านบาท ในปี 2559 อาคเนย์ประกันชีวิตมีผลงานที่น่าพอใจจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับช่องทางต่างๆ เช่น การผสมผสานผลิตภัณฑ์นำเสนอผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ให้กับลูกค้าของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น และอาคเนย์แคปปิตอลได้สร้างพันธมิตรกับคู่ค้ารายใหญ่ ทำให้เราสามารถชนะการประมูลรถเช่าองค์กรระยะยาวจากบริษัทและองค์กรชั้นนำ อาทิ กลุ่มบริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย องค์การโทรศัพท์ และกลุ่มบริษัทในเครือทีซีซี"
ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกในปี 2560 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2559 อาคเนย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง อาคเนย์ประกันภัย มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ในขณะที่อาคเนย์ประกันชีวิต มีเบี้ยประกันรับรวม 3,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% และมีเบี้ยประกันรับรายใหม่ถึง 1,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390% และอาคเนย์แคปปิตอล มียอดรถเช่าองค์กร 14,495 คัน เพิ่มขึ้น 41.8% มีรายได้รวมในไตรมาสแรก 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
นายโชติพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า "ในปี 2560 เรายังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้ครอบคลุมทั้ง 3 ธุรกิจ (Synergy) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร เราเดินหน้าพัฒนาระบบงานเพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังที่เราได้ทำตลอดระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจการเงิน อาคเนย์แคปปิตอลยังคงมุ่งรักษาฐานลูกค้ารถเช่าองค์กรและขยายไปยังกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงพันธมิตรคู่ค้ากลุ่มทีซีซี โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น สินเชื่อให้กับผู้ซื้อผู้ขาย Supply chain Financing ผ่านพันธมิตรคู่ค้าในกลุ่มทีซีซี เป็นต้น ในส่วนของธุรกิจประกัน เราขยายฐานลูกค้าผ่านพันธมิตรตัวแทน คู่ค้า นายหน้าประกัน ตั้งเป้าเปิดสำนักงานตัวแทนที่จะดูแลทั้งลูกค้าประกันภัยและประกันชีวิตทั่วประเทศ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านประกันและการเงินแบบครบวงจร"
จากธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อาคเนย์ได้เริ่มใช้ระบบไอที New Core Insurance System ซึ่งได้ลงทุนในปีที่ผ่านมากว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการบริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน เช่น ระบบการขาย ระบบรับประกัน ระบบพิจารณาการจ่ายสินไหม เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใช้งานได้ทั้ง 3 บริษัท ในปีนี้
"เพราะธุรกิจประกันและการเงินมีหัวใจอยู่ที่การบริการ อาคเนย์จึงให้ความสำคัญกับคน อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนอาคเนย์ให้ไปถึงเป้าหมายก็คือการพัฒนาบุคลากร เรามีการฝึกอบรมบุคลากรอย่างครอบคลุมทุกระดับชั้นทั่วทั้งองค์กร ผ่านหลักสูตรการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาคุณภาพของตัวแทนให้มีความรู้ เพื่อสามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้า เราสามารถสร้างตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้นถึง 70% และตัวแทนอาคเนย์ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยจะเห็นจากอัตราความยั่งยืนสูงถึง 89% เป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม ในส่วนของพนักงานเราเองก็มีแผนพัฒนาบุคลากร อาทิ หลักสูตร Leadership Development Program ให้กับทีมผู้บริหาร หลักสูตร SEG Manager Plus สำหรับระดับหัวหน้างาน และหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นให้กับพนักงานระดับปฏิบัติการ เพื่อสร้างคุณค่าและโอกาสการเติบโต สิ่งที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรคือการดูแลพนักงานทั้งในเรื่องของสวัสดิการ การปรับสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน และการสร้างกิจกรรมที่ทำให้พนักงานมีส่วนร่วม โดยปีนี้เราจะสำรวจข้อคิดเห็นจากพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุง กลยุทธ์งานบุคคล ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พนักงานของเรามาทำงานทุกวันอย่างมีความสุขครับ" นายโชติพัฒน์กล่าวทิ้งท้าย