กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--กทม.
เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.44) เวลา 15.30 น. นายสหัส บัณฑิตกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีทาสีอาคารตามโครงการปรับปรุงทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณท่าช้าง และถนนหน้าพระลาน พื้นที่บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์เป็นเขตเมืองเก่าที่มีความสำคัญยิ่งของชาติไทยและถูกกำหนดให้ได้รับการอนุรักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วอันเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มอาคารตึกที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมตามอิทธิพลของยุโรปมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และยังคงมีสภาพสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ยังประโยชน์ใช้สอยตอบสนองผู้คนในพื้นที่ ผู้ที่ผ่านไป — มา และนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี อาคารส่วนใหญ่อยู่ในความดูแลครอบครองของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งในสภาพปัจจุบันการใช้ประโยชน์ทางการค้า และการใช้สอยอาคาร ทำให้มีการต่อเติมส่วนประกอบของอาคาร ประกอบกับเป็นอาคารเก่าที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมได้ง่าย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นอกจากจะทำให้เกิดความรกรุงรังแล้ว ยังลดความสวยงามของกลุ่มอาคารเก่าลงไปเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการดำรงรักษามรดกทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของไทยไว้ กรุงเทพมหานครโดยสำนักผังเมืองจึงได้จัดโครงการปรับปรุงทาสีอาคารดังกล่าวขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากผู้อยู่อาศัยประชาคมท่าช้างวังหลังและหน้าพระลาน รวมทั้งการสนับสนุนจากกรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยศิลปากรในการออกแบบปรับปรุง, สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการสนับสนุนสีทาอาคารจากบริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด
นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวว่า กทม. ได้ดำเนินโครงการวางผังเฉพาะแห่งในพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณตั้งแต่ท่าช้าง ถึงท่าพระจันทร์ โดยวิธีการมีส่วนร่วมของประชาชนมาประกอบการวางผัง ซึ่งจะต้องอาศัยเวลาและกรรมวิธีที่จะให้แผนและผังได้รับการอนุมัตินำไปสู่การปฏิบัติ จึงได้เสนอวิธีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในลักษณะดำเนินการได้ทันที และเห็นผลรวดเร็ว ด้วยการปรับปรุงและทาสีอาคารที่มีคุณค่า มีเอกลักษณ์เป็นที่ปรากฏเห็นชัดเจน โดยในเบื้องต้นเริ่มดำเนินการที่อาคารตึกแถวท่าช้าง จำนวน 33 คูหา และอาคารตึกแถวถนนหน้าพระลาน จำนวน 29 คูหา
การดำเนินงานดังกล่าว มิได้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร แต่ใช้ความร่วมมือจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และประชาชนผู้ใช้อาคาร โดยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ชื่อว่า คณะกรรมการดำเนินโครงการปรับปรุงทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีผู้อำนวยการสำนักผังเมือง เป็นประธาน กองจัดรูปที่ดินและปรับปรุงฟื้นฟูเมือง เป็นเลขานุการ ร่วมกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ กรมศิลปากร และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รวมถึง ผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้ความรู้ความเข้าใจในด้านอาคาร ด้านการรวมตัวของประชาชน ประกอบกับได้รับการสนับสนุนสีทาอาคารจากบริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มอบสีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับอาคารที่มีคุณค่าดังกล่าว ในปริมาณที่เพียงพอ มูลค่าประมาณ 200,000 บาท อย่างไรก็ตาม อาคารทั้งหมดบางจุดจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม และเตรียมพื้นผิวอาคารให้เหมาะสมถูกต้องก่อนจะทาสี ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ผู้ใช้อาคารทุกรายเป็นผู้รับผิดชอบ ผ่านผู้แทนประชาชนภายใต้การดูแลงานด้านวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิและกรมศิลปากร การดำเนินงานดังกล่าว สำนักงานเขตพระนคร เป็นผู้อำนวยความสะดวก และสำนักผังเมือง เป็นผู้ประสานงานในรายละเอียด
ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติช่วงเดือนธันวาคม 2543 กรุงเทพมหานคร สำนักผังเมืองได้นำโครงการปรับปรุงทาสีอาคารนี้เข้าเป็นกิจกรรมหนึ่งของการรณรงค์สิ่งแวดล้อมด้วย โดยได้มีพิธีมอบสีทาอาคาร เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.43 รับมอบโดย นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับประชาชนผู้ใช้อาคารบริเวณท่าช้างและหน้าพระลาน
บัดนี้การปรับปรุงทาสีอาคารเริ่มปฏิบัติงานแล้ว โดยผู้รับจ้างดำเนินงานด้านการซ่อมแซมและทาสี ภายใต้การยินยอมของผู้ใช้อาคารแต่ละราย คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มี.ค.44 สำหรับพิธีทาสีอาคารที่กรุงเทพมหานครจัดให้มีขึ้นเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.44) เป็นการแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานราชการและเอกชน รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้อาคารว่า การปรับปรุงทาสีอาคารจะต้องประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์--จบ--
-นห-