กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--มหาวิทยาลัยรามคำแหง
อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ม.ร. คว้ารางวัลเหรียญทองด้านนวัตกรรม จากเวทีนานาชาติ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังตั้งใจศึกษาค้นคว้าร่วมกับอาจารย์อีก 2 ท่านจากต่างสถาบัน เผยผลงานวิจัยชิ้นนี้สร้างสรรค์จากวัตถุดิบสมุนไพรธรรมชาติ รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน และลดปริมาณการใช้ยาเพื่อลดผลกระทบข้างเคียง
ดร.จริยา ร่มสายหยุด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับรางวัลเหรียญทองด้านนวัตกรรม ในผลงานวิจัยเรื่อง A Time-Release Formulation of Medicinal Plant Extracts for Diabetic Adjunctive Treatment โดยร่วมทำกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.ดร.อมรพันธุ์ เสรีมาศพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยรางวัลครั้งนี้ได้รับจากเวทีนานาชาติ 45th International Exhibition of Inventions of Geneva ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
สำหรับเวทีประกวดผลงานประดิษฐ์และผลงานวิจัยนานาชาติครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 2 เมษายน 2560 โดยมีผลงานเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงนิทรรศการฯ กว่า 1,000 ผลงาน จากนานาประเทศทั่วโลก 45 ประเทศ โดยมีผลงานของนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยจำนวน 91 ผลงาน จาก 32 หน่วยงาน โดยการประกวดผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการสนับสนุนการประกวดและการแสดงผลงานจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และทุนพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
โอกาสนี้ ดร.จริยา กล่าวว่าในขณะที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกกำลังคืบคลานเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และโรคเบาหวานก็เป็นโรคที่พบได้มากในประชากรผู้สูงอายุ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ได้คิดค้นผลงานวิจัยสร้างสารสกัดจากพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในประเทศไทย เพื่อช่วยรักษาโรคเบาหวาน รักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมลดปริมาณการใช้ยาให้กับผู้ป่วย เพราะตัวยาต่างๆ มักมีผลกระทบข้างเคียง เช่น โรคไต อาการเลือดเป็นพิษ เป็นต้น โดยเห็นผลการเปลี่ยนแปลงใน 8 สัปดาห์ และยังสามารถนำไปใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับคนปกติได้ด้วย
"รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจมากที่ผลงานวิจัยชิ้นนี้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้จริง และยังได้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหงและประเทศชาติอีกด้วย หลังจากนี้ตั้งใจจะพัฒนาสูตรเพิ่มเติมพร้อมนำเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตและสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ทุกคน"