กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--มทร.ธัญบุรี
"ผมป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคSLE ตั้งแต่อายุ 13 ปี เวลาที่ผมป่วยตัวผมจะบวม หน้าบวม เหนื่อยง่าย ผิวลอก ต้องหยุดพักผ่อน ทุกวันนี้ผมต้องทานยาให้ตรงเวลา วันละ 18 เม็ด เพื่อรักษาอาการและความอยู่รอดของชีวิตผม และที่สำคัญเพื่ออนาคตวิศวกรอาชีพที่ผมใฝ่ฝัน" "ก้อง" นายก้องภพ วันโทน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิศวกรรมอาหาร ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาสู้ชีวิตอีกหนึ่งคนที่ต้องต่อสู้กับการทำงานส่งตนเองเรียนและต่อสู้กับโรค SLE โรคที่ก้องภพต้องเรียนรู้และต่อสู้ในการเอาชีวิตรอด
ก้อง เล่าว่า "ผมตรวจพบโรคนี้ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ตัวบวมหน้าบวม แขนลอก นอนโรคพยาบาลอยู่ 1 เดือนเต็ม จากการวินิจฉัยโรคของหมอผมป่วยเป็นโรค SLE" พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ตนเองเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3 ตนเองอาศัยอยู่กับพ่อ จึงหางานทำเพื่อหาเงินมาแบ่งเบาภาระทางบ้านโดยเริ่มทำงาน part time ที่เคเอฟซีตั้งแต่ชั้น ม.3 หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 สายวิทย์-คณิต ที่โรงเรียนธัญบุรี สอบตรงเข้าที่สาขาวิศวกรรมอาหาร ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ "อยากเป็นวิศวกร" เมื่อเข้ามาศึกษาที่ มทร.ธัญบุรี คุณพ่อซึ่งเป็นพนักงานที่บริษัท SPY โดนให้ออกจากที่ทำงาน คุณพ่อจึงออกมาขับสิบล้อ "อาชีพคนขับสิบล้อไม่ได้อยู่ประจำขับรถไปตามจังหวัดต่างๆ" ตนเองจึงอาศัยอยู่ที่บ้านคนเดียวและหาเงินส่งเสียตนเองเรียน ที่หยุดทำงานตอน ม.6 ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยเข้าทำงานที่ เคเอฟซี ในตำแหน่งทอดไก่ โดยได้ชั่วโมงละประมาณ 40 บาท ทำช่วงที่หลังเลิกเรียน 18.00 – 23.00 น. รายได้ประมาณเดือนละ 4,000 บาท และช่วงปิดเทอม รายได้เดือนละ 8,000 – 9,000 บาท ที่ทำงานอยู่คลอง 2 อยู่ใกล้ ขับมอเตอร์ไซค์ใส่เสื้อแขนยาวส้วมหมวกกันน็อคป้องกันตนเองจากแสงแดด"เพราะผมโดดแดดมากไม่ได้"
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนเองเป็นคนรับผิดชอบ แต่บ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันพ่อเป็นคนหาค่าเช่า เงินที่ได้ทั้งหมดจะแบ่งใช้จ่าย และจะใช้จ่ายประหยัดให้ได้มากที่สุด ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายประจำวัน ใช้จ่ายวันละ 100 บาท ตอนเย็นกลับบ้านทำกับข้าวทานเอง 1 เดือน พ่อจะกลับมาหาตนเอง 1 ครั้งต่อเดือน "แค่นี้ผมดีใจแล้วครับ" มีบ้างที่ท้อ ที่ต้องทำงานหาเงินเรียนเอง เพื่อนไปเที่ยว ถ้ามีเวลาจะไปเที่ยวกับเพื่อน แต่นานๆ ครั้ง ไม่เคยน้อยใจที่ไม่ได้เที่ยว กลับโชคดีการทำงาน "สอนให้มีความพยายาม" ได้รู้จักสังคมได้เจอชีวิตของคนหลายๆ แบบ สังคมของคนทำงานสอนให้รู้ว่าต้องมีความรับผิดชอบ ต้องมีความตรงต่อเวลา
"นอกจากที่ต้องดิ้นรนหาเงินมาเรียนแล้ว ตนเองต้องต่อสู้กับโรค ที่ตนเองไม่ได้อยากเป็น แต่เมื่อเป็นแล้ว ต้องยอมรับ ตอนที่เริ่มเป็นใหม่ๆ มีท้อแท้ แต่เพื่อความมีชีวิตรอดตนเองต้องปฏิบัติตัว ทานยาตามที่หมอสั่งให้ตรงเวลา ไม่ตากแดด และไปพบหมอเดือนละ 1 ครั้ง "ค่ารักษาพยาบาลใช้สิทธิ์ประกันสังคม" เม็ดยาที่ผมทานเปลี่ยนไปตามที่หมอสั่ง ปัจจุบันตนเองทานยาวันละ 18 เม็ด แรกๆ ไม่อยากทานไม่อยากเอาเข้าปาก แต่เพื่อควบคุมอาการไม่ให้อาการกำเริบต้องทานยา ถ้าอาการกำเริบจะไปทำงานไม่ได้ ไปทำงานไม่ได้ ไม่มีเงินเรียน" ปัจจุบันตนเองเรียนได้เกรดเฉลี่ย 1.85 โดยเป็นเกรดเฉลี่ยที่น้อยมาก เพราะว่าตนเองต้องทำงาน เวลาส่วนใหญ่จะไปทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาทบทวนหนังสือ แต่ตนเองจะพยายามไม่ให้เกรดต่ำกว่า 1.8 เทอมนี้ต้องตั้งใจเรียน ทำให้เกรดเฉลี่ยขึ้นมาสูงกว่า เพราะว่าจะโดนไทร์ออกจากมหาวิทยาลัย "ฝันให้ไกลไปให้ถึง ทุกปัญหามีทางแก้" ทุกปัญหามีทางออกเสมอ อยู่ที่ตัวเราเองคิดจะหาทางแก้ปัญหาหรือเปล่า "ผมทำทุกวันนี้คือทำเพื่อพ่ออยากให้พ่อสบาย เรียนจบมีงานทำ เป็นวิศวกรตามความฝันของผม" คนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับผม เรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคนี้ พยายามควบคุมตนเอง ปฏิบัติตนตามที่หมอสั่ง สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นเดียวกับผม ก้องกล่าวทิ้งท้าย