กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ฟอร์ด (ประเทศไทย)
บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด สรุปผลยอดการจำหน่ายรถฟอร์ดในรอบ 8 เดือน ปี 2544 มียอดรวมทั้งสิ้น 11,833 คัน ขยายตัว เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาประมาณ 13.1% มั่นใจตลาดรถไทยยังมีอนาคตที่สดใส
“ตลาดรถยนต์โดยรวมยังคงมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ตัวเลขเดือนสิงหาคม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยอดขายในเดือนกรกฎาคม โดยยอดรวมตลอด 8 เดือน ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 13% ซึ่งการ เติบโตของฟอร์ด ก็มีสัดส่วนการขยายตัวที่ใกล้เคียงกันมาก เกิดจากความมั่นใจของผู้บริโภค ที่ให้ความเชื่อมั่นกับสินค้าตราฟอร์ดเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน" นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่าย สื่อสารการตลาด บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "ภาวะการณ์น้ำท่วม ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ลูกค้าต้องนำเข้ามาช่วยในการตัดสินใจนอกเหนือไปจากการเปรียบเทียบรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ส่งผลให้บริษัทรถยนต์ต้องเร่งพัฒนาสินค้า และบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ในส่วนของฟอร์ด เรามีการแนะนำรถเรนเจอร์รุ่น เฮอริเคน รุ่นตกแต่งพิเศษ และยังตอกย้ำความเป็นผู้นำกระบะนิรภัยรายแรกของไทยอีกครั้ง ด้วยการ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม อิมโมบิไลเซอร์ ให้กับรถกระบะเรนเจอร์ ส่วนรถเก๋งเลเซอร์ มีรายการพิเศษ ซ่อมบำรุงฟรี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี และดอกเบี้ยราคาพิเศษ"
เดือนสิงหาคม 2544 ฟอร์ดมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,505 คัน แบ่งออกเป็นตลาดรถกระบะ 1 ตัน รุ่นเรนเจอร์ 1,455 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 11.8% ส่วนรถฟอร์ด เลเซอร์ มียอดจำหน่าย 50 คัน
ยอดขายฟอร์ดรวม 8 เดือน จำหน่ายรถได้ทั้งสิ้น 11,833 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 13.1% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลข 10,465 คัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2543 มีส่วนแบ่งตลาด 6.3% ของตลาดรถยนต์โดยรวมทั้งหมด
ในส่วนของตลาดรถกระบะ 1 ตัน เมื่อผ่าน 8 เดือน มียอดขายสะสม 11,339 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.3% เติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 16.4% เมื่อเทียบกับตัวเลข 9,789 คัน
ตลาดรถยนต์โดยรวมทั้งหมด เดือนสิงหาคม ปี 2544 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 23,549 คัน เพิ่มขึ้น ประมาณ 3.9% เทียบกับตัวเลขยอดขาย 22,668 คัน ของปีที่ผ่านมา
ตัวเลขยอดการจำหน่ายรวม 8 เดือน ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มียอดขายทั้งสิ้น 186,679 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดจำหน่าย 165,173 คัน
นายคมกริช กล่าวสรุปว่า "การก่อวินาศกรรมในสหรัฐ อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของไทยบ้าง โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่จะเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น คาดว่าในระยะยาว หากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ขยายวงกว้างออกไปมากกว่านี้ ราคาน้ำมันก็จะปรับตัวลงมาอยู่ในระดับปกติ กำลังซื้อของผู้บริโภคก็จะกลับมาดีเหมือนเดิมอีกครั้ง"
ยอดจำหน่ายโดยรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย เปรียบเทียบระหว่างปี 2543-2544
เดือน 2543 2544 การเติบโต
มกราคม 15,717 16,883 7.42%
กุมภาพันธ์ 16,668 19,839 19.02%
มีนาคม 22,290 24,768 11.12%
เมษายน 20,717 25,231 21.79%
พฤษภาคม 23,394 26,094 11.54%
มิถุนายน 23,361 27,106 16.03%
กรกฎาคม 20,250 22,961 13.38%
สิงหาคม 22,668 23,549 3.89%
ยอดรวมทั้งสิ้น 165173 186679 13.02%
ยอดรวม ฟอร์ด 8 เดือน 10,465 11,833 13.07%
แหล่งข้อมูล : บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด--จบ--
-สส-