กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
· กรมโรงงานฯ จับมือองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ ปราจีนบุรี และกลุ่มเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรง ลงพื้นที่จัดกิจกรรม "ไตรภาคี รวมพลัง สร้างสรรค์ชุมชน"
กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดตัวโมเดลคลองพระปรง ตัวอย่างความสำเร็จการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทำอุตสาหกรรม โดยสามารถบูรณาการความร่วมมือกับชุมชน ในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยโมเดลดังกล่าวสำเร็จได้ผ่านการจัดตั้งคณะทำงานไตรภาคีเพื่อบริหารจัดการน้ำเสียและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมชุมชน กับองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ จังหวัดปราจีนบุรี และกลุ่มเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรง ด้วยการผลักดันมาตรการเข้มงวดตรวจสอบและกำกับดูแลโรงงาน และบังคับใช้กฎหมายแก่โรงงาน กว่า 1,415 โรงงาน อย่างเคร่งครัด อาทิ คุมเข้มติดตั้งอุปกรณ์แสดงสัญญาณตรวจจับน้ำเสียแบบเรียลไทม์ การจัดบุคาลากร ผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมประจำโรงงาน ฯลฯ ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้ร่วมกับภาคชุมชนจัดกิจกรรม "ไตรภาคี รวมพลัง สร้างสรรค์ชุมชน" เพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์และแสดงพลังความสามัคคีผ่านความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงงานและชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน เมื่อเร็วๆ นี้ ณ วัดปากแพรก ตำบลกบินทร์ อำเภอบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สำนักส่งการมีส่วนร่วมของประชาชนกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทร 0 2202-4143 หรือสอบถามข้อมูลโครงการอื่นๆ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร.0 2202 4014หรือเข้าไปที่www.diw.go.th หรืออีเมล์ pr@diw.mail.go.th
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสระแก้วถือว่าเป็นเขตอุตสาหกรรมระดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจตั้งฐานการผลิต เนื่องด้วยปัจจัยด้านภูมิภาคที่สามารถเชื่อมประตูอาเซียนไปประเทศกัมพูชาผ่านจังหวัดสระแก้วได้ จึงทำให้เกิดการขยายตัวและพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมในวงกว้างมากขึ้น โดยจากข้อมูลพบว่า โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมประเภท ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ อาหารแปรรูป จำนวน กว่า 1,415 โรง
นายมงคล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการรายงาน ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องการปล่อยน้ำเสีย และโดยพื้นที่มีพบปัญหาคือบริเวณคลองพระปรง จนก่อให้เกิดปัญหาระหว่าง ชุมชน และโรงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ รับผิดชอบกำกับดูแล จึงเล็งเห็นความสำคัญในการบริหารจัดการให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาจึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ จังหวัดปราจีนบุรี และผู้แทนชุมชน กลุ่มเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรง จัดตั้งคณะทำงานไตรภาคีเพื่อบริหารจัดการน้ำเสียและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมชุมชนแนวคลองพระปรงตั้งแต่ ปี 2555 เพื่อบูรณาการข้อมูลองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อหาแนวทางร่วมกันเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
โดยความร่วมมือดังกล่าวเกิดพัฒนาการในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ การออกมาตรการและการกำกับดูแล อาทิ การติดตั้งอุปกรณ์แสดงสัญญาณตรวจจับน้ำเสียแบบเรียลไทม์ การจัดบุคลากรผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมประจำโรงงาน การสานสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและโรงงาน ลงพื้นที่ชุมชนโดยรอบเพื่อสอบถามประเด็นปัญหาผลกระทบต่อชุมชน รวมถึงความพึงพอใจในการดำเนินพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข ของโรงงาน (People Audit) และสะท้อนข้อมูลดังกล่าวไปยังโรงงานเพื่อปรับปรุงแก้ไข พร้อมทั้งการทำ CSR เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงงานและชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ฯลฯ จนสามารถลดปัญหาการร้องเรียนได้อย่างมาก
นายมงคล กล่าวต่อว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้จัดประชุมคณะทำงานไตรภาคี เพื่อพิจารณาผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว รวมทั้งลงพื้นที่จัดกิจกรรม "ไตรภาคี รวมพลัง สร้างสรรค์ชุมชน" ณ วัดปากแพรก ตำบลกบินทร์ อำเภอบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมทั้งมีกิจกรรมจิตอาสาให้ชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมได้ร่วมทำกิจกรรมกัน อาทิ ปลูกหญ้าแฝก ปล่อยปลา และปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ สร้างความสมดุลทางชีวภาพทรัพยากรป่าไม้ และแสดงพลังความสามัคคีเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากการจัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมแนวคลองพระปรง ที่โรงงานอุตสาหกรรมรอบแนวคลองพระปรงร่วมสมทบทุนเป็นกองกลางทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชน
ด้านนาย กฤษฎากรณ์ สุริยวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ กล่าวว่า ในการบรูณาการทำงานกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการร่วมแก้ไขปัญหามลพิษน้ำแนวคลองพระปรงไม่เพียงแต่เป็นการเข้ามากำกับดูแลเพียงอย่างเดียวแต่เป็นการช่วยประสานให้ทุกๆ ภาคส่วนได้เริ่มตระหนักในการร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อีกทั้งยังให้องค์ความรู้การบริหารจัดการน้ำเสีย การจัดการน้ำทิ้งอย่างเป็นระบบ และการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมในการเข้าไปตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความขัดแย้งที่เคยมีให้บรรเทาด้วยการหารือกันในทุกภาคส่วนและ
ในส่วนของ นายสุเทพ เสงี่ยมศักดิ์ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรง กล่าวว่า ภาครัฐได้ส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนงาน ดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับทุกภาคส่วนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น และมีการจัดเสวนาให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการทำงานและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างไรก็ตาม กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะไม่ละเลยในการปฏิบัติหน้าและจะดำเนินการต่อในระยะยาว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในทุกภาคส่วนและเป็นต้นแบบของไตรภาคีที่ผนึกกำลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมโรงงานอุตสาหกรรม 1564 หรือขอคำปรึกษาแนะนำได้ที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โทร. 0 2202 4018 หรือเข้าไปที่www.diw.go.th หรืออีเมล์pr@diw.mail.go.th