ย้อนรำลึกถึงเจมส์ ดีน ทางซีเนแม็กซ์ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้

ข่าวทั่วไป Monday January 29, 2001 13:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
อาจจะกล่าวได้ว่าจนกระทั่งทุกวันนี้นอกจากมาร์ลอน แเบรนโดแล้ว เจมส์ ดีน เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกจดจำในฐานะสัญลักษณ์ของยุคฟิฟท์ตี้ซึ่งเป็นคนรุ่นต่อต้านสังคมของอเมริกา ในภาวะสงบหลังสงครามของยุคสมัยที่เสื้อแจ๊คเก็ตเป็นที่นิยมไปทั่วเมืองนั้น ดีนเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการแสวงหาประสบการณ์ชีวิต นอกเหนือการอยู่ภายใต้อิทธิพลของพ่อแม่ แต่ทว่าในชีวิตจริง เจมส์ ดีนไม่ได้แหกกฎสังคมมากมายเหมือนกับบทบาทที่เขาแสดงในภาพยนตร์ ดีนเป็นชายหนุ่มที่มีจิตวิญญาณอ่อนโยนคลั่งไคล้และมีความสุขกับงานศิลปะและการเล่นกีฬาซึ่งรวมถึง การขับรถแข่งสุดโปรดของเขาด้วย
ในฐานะมนุษย์ยุคศตวรรษที่ 21 เมื่อเราหวนคิดถึงเจมส์ ดีน เราก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อพบว่าดีนแสดงภาพยนตร์ ไว้เพียงแค่สามเรื่องเท่านั้นและทั้งหมดอยู่ในสังกัดของวอร์เนอร์ บราเธอร์ ดีนเป็นหนึ่งในนักแสดงเพียงไม่กี่คนที่มีช่วงชีวิตของการเป็นดาราสั้นมาก ในเวลาเพียงหนึ่งปี เขาปรากฏโฉมในฐานะของวัยรุ่นอเมริกันช่วงกลางของยุคฟิฟท์ตี้ที่อยู่ไม่สุข ในภาพยนตร์เรื่อง East of Eden, Rebel Without A Cause และ เรื่อง Giant
เจมส์ ดีนเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2474 ที่เมืองแมริออน รัฐอินเดียน่า ตอนที่เขาอายุ 5 ขวบ ครอบครัวของเขาย้ายไปอยู่ที่ลอสแองเจลลิส เมื่ออายุได้ 9 ขวบ ดีนต้องย้ายกลับมายังภาคตะวันตกกลางอีกครั้งเนื่องจากการตายของผู้เป็นแม่ โดยดีนได้รับการเลี้ยงดูจากป้าและลุงในฟาร์มแถบรัฐอินเดียน่าในเวลานั้น จนกระทั่งเรียนจบระดับมัธยมศึกษา ดีนก็กลับไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนียเพื่อเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย
ปลายปี 2494 ดีนย้ายไปอยู่นิวยอร์คและเริ่มต้นชีวิตนักแสดงที่นั่น เขาได้ออกรายการโชว์ทางโทรทัศน์เจ็ดรายการ ก่อนก้าวไปเป็นตัวประกอบเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ร่วมแสดงละครบรอดเวย์เรื่อง See the Jaguar ในปี 2495 ดีนเข้าเป็นสมาชิกของโรงเรียนสอนการแสดงซึ่งเป็นสถานที่ฝึกปรือฝีมือทางด้านการแสดงของเขา เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งของดีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมาก็คือมาร์ลอน แบรนโดนั่นเอง เมื่อปี 2497 ดีนมีโอกาสได้เล่นละครบรอดเวย์เรื่อง The Immoralist จากนั้นได้ เริ่มต้นแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายของจอห์น สไตเบ็ค เรื่อง East of Eden
เดือนมีนาคม 2498 ดีนฉลองความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง East of Eden ด้วยการซื้อรถปอร์เช่ สไปเดอร์และ เริ่มต้นชีวิตนักแข่งรถ ในเดือนเดียวกันนั้นเอง เขาได้เริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without A Cause ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่อง East of Eden ได้เริ่มฉายครั้งแรกในอเมริกาเมื่อเดือนเมษายน กระทั่งเดือนพฤษภาคม ดีนได้ลงสนามแข่งรถอีกครั้งและถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without A Cause จนเสร็จ จากนั้นเขาได้เข้าแข่งขันรถแข่งอีกหนึ่งสนามก่อนที่จะร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง Giant ในรัฐเท็กซัส ในเดือนกรกฎาคม
ด้วยวัยเพียง 24 ปี เจมส์ ดีน เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางหลวงระหว่างการเดินทางไปแข่งขันรถแข่งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2498 ภายในรถปอร์เช่ที่รักของเขาเอง
ชีวิตของดีนแตกต่างจากแบรนโดอย่างสิ้นเชิง ขณะที่แบรนโดแตกต่างจากภายในวัยหนุ่มของเขาและมีหลายคน กล่าวว่าเขาใช้ชีวิตการเป็นนักแสดงอย่างประมาท ดีนยังคงถูกระลึกถึงในฐานะของตัวแทนวัยรุ่นอายุยี่สิบตลอดมา
เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปีแห่งการจากไปของเจมส์ ดีน ซีเนแม็กซ์นำเสนอภาพยนตร์ที่ดีนได้ฝากฝีไม้ลายมือไว้ให้ผู้คนได้ระลึกถึงเขา เรื่อง East of Eden, Rebel Without A Cause และเรื่อง Giant ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้
East of Eden ภาพยนตร์คลาสสิคเรื่องแรกในชีวิตการแสดงของดีนที่ส่งผลให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์สาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมถึงสองรางวัล East of Eden เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มนาม คาล เทรสค์ (ดีน) ที่ต้องล่มสลายเมื่อเขาพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเอง อีกทั้งยังต้องต่อสู้แย่งชิงกับพี่น้องร่วมสายเลือดเพื่อพิชิตใจสาวน้อยแสนสวย ภาพยนตร์ชีวิตเรื่องนี้กำกับโดยอีเลีย คาซาน ผู้กำกับเรื่อง Waterfront และ A Streetcar Named Desire
Rebel Without A Cause เป็นภาพยนตร์อันเปี่ยมด้วยคุณภาพของยุคและเปี่ยมไปด้วยพลังตราบจนปัจจุบัน ร่วมกันสร้างตำนานในเรื่องโดยเจมส์ ดีน, นาตาลี วู้ด, และแซล มิเนโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดชีวิตวัยรุ่นที่มีปัญหาชีวิต ความรู้สึกแปลกแยกของเด็ก และความพยายามที่จะเติบโตในยุคฟิฟท์ตี้ของอเมริกา Rebel Without A Cause ทำให้นาตาลี วู้ด และแซล มิเนโอ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์สาขานักแสดงสนับสนุนฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงสนับสนุนฝ่ายชายยอดเยี่ยม
ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในชีวิตของเจมส์ ดีน Giant จากฝีมือการกำกับของจอร์จ สตีเวนส์ คว้ารางวัลออสก้าร์สาขา ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมพร้อมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอีก 8 สาขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2500 เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับการต่อสู้ของคนสองวัยจากตระกูลเบเนดิคและตระกูลริงค์ แมรี่แลนด์ เบลลี่ (อลิซาเบธ เทเลอร์) หญิงสาวผู้ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีตกลงแต่งงานกับคหบดีหนุ่มเจ้าของปศุสัตว์นาม บิค เบเนดิค (รอค ฮัดสัน) และกลับไปยังเท็กซัสพร้อมกับเขาเพื่อสร้างฟาร์มปศุสัตว์ที่บ้านของหล่อน เรื่องราวความตึงเครียดระหว่างชาวอเมริกันและเม็กซิกัน อภิสิทธิ์ชนและคนยากจน และบรรดาชายหนุ่มที่ต้องมาตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกัน ได้เกิดขึ้นที่นี่ภายใต้แผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่ของเท็กซัส พบบทบาทสุดท้ายของดีนได้ทางช่องซีเนแม็กซ์ ยูบีซี 21
East of Eden กำหนดฉายวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น., วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 15.00 น., และวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 10.45 น.
Rebel Without A Cause กำหนดฉายวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น., วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 8.45 น., และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 15.00 น.
Giant กำหนดฉายวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 11.45 น., วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น., วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 9.00 น. และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 15.15 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัทเอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย) จำกัด
แมททิวส์ สมิท
บงกช แพบรรยง
โทร. 658-6111-20--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ