กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2
ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ วิเศษกุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำพลังงานหมุนเวียน เช่น กากอ้อย แกลบ มาใช้ในการผลิตไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.7% มีบริษัทที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ 30 แห่ง แบ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากกากอ้อย จำนวน 19 แห่ง จากแกลบ 3 แห่ง จากแกลบและเศษไม้ 5 แห่ง นำมันยางดำ 1 แห่ง ขยะ 1 แห่ง และก๊าซจากของเสีย 1 แห่ง รวมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 591.40 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศที่มีจำนวน 22,269 เมกะวัตต์ ที่มีเชื้อเพลิงหลัก คือก๊าซธรรมชาติ 60.5 % น้ำมันเตา 11.6 % ลิกไนต์/ถ่านหิน 18 % พลังน้ำ 6.10 % น้ำมันดีเซล 0.1 % สำหรับพลังงานหมุนเวียนที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้านั้น เป็นแหล่งพลังงานที่มีอยู่ในประเทศ และมีผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมน้อย ดังนั้นการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศให้เกิดประโยชน์จึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง
"จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีเชื้อเพลิงหมุนเวียนหลายชนิดที่มีศักยภาพนำมาผลิตไฟฟ้าได้ เช่น กากอ้อย ที่มีมากในจังหวัดกาญจนบุรี นครราชสีมา อุดรธานี จำนวน 16 ล้านตัน/ปี สามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2,500 เมกะวัตต์ ส่วนแกลบ มีมากในแถบจังหวัดสุพรรณบุรี นครสวรรค์ อุบลราชธานี ประมาณ 5 ล้านตัน/ปี สามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 70 เมกะวัตต์ และเศษไม้ ที่มีมากในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ประมาณ 4 ล้านตัน/ปี สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 400 เมกะวัตต์ และในเบื้องต้นกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจะส่งเสริมการผลิตจำนวน 300 เมกะวัตต์ " ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2 โทรศัพท์ 612-1555 ต่อ 201-5 โทรสาร 612-1368
121/1-2 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 www.nepo.go.th-- จบ--
-อน-