กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--IR network
TWPC โดดเด่นเข้าตา บล. ฟิลลิป ออกรีเสิร์ชแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐานปี"60 ที่ 11.80 บาทต่อหุ้น อิง PE ที่ 15 เท่า มองระยะยาวผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ จากการขยายฐานลูกค้า พร้อมทั้งเพิ่มกำลังผลิตในต่างประเทศ ด้านผู้บริหาร "โฮ เรน ฮวา" ตั้งเป้าหมายรายได้โตต่อเนื่อง High Single Digit พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เร็วๆ นี้
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) แนะนำ "ซื้อ" TWPC ให้ราคาพื้นฐานปี 2560 ที่ 11.80 บาทต่อหุ้น อิง PE ที่ 15 เท่า โดยประเมินว่า แนวโน้มผลกำไรในปี 2560 ขยายตัว 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 695.3 ล้านบาท แม้ตลาดมันสำปะหลังไทยปีนี้มีความผันผวนสูง แต่คาดว่ารายได้สามารถโตต่อเนื่อง 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 6,686.9 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังชนิดธรรมดา (Native Starch) ขยายตัวตามความต้องการซื้อจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ภูมิภาคเอเชีย นอกจากนั้นเครือข่ายชาวสวน Thai Wah ที่เหนียวแน่นและการขยายฐานการผลิตในต่างประเทศ ทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแห่งแรกในกัมพูชาคาดเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 4/2560 นี้
2.ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังชนิดมูลค่าเพิ่ม (HVA) คาดสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปีนี้มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์แป้งอบหยาบราว 100% ช่วงไตรมาส 2/2560 และผลิตภัณฑ์กลูโคสไซรัปราว 50% ช่วงไตรมาส 3/2560 3.ธุรกิจอาหาร (วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว) แม้รายได้ในประเทศมีแนวโน้มทรงตัวจากการแข่งที่สูง แต่คาดว่าจะได้ส่วนชดเชยจากประเทศเวียดนาม ซึ่งมีความนิยมบริโภควุ้นเส้นและเศรษฐกิจที่การขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่สำหรับผลิตวุ้นเส้นในประเทศดังกล่าว คาดเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 4/2560 นี้ อีกทั้งมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารพร้อมปรุงสำหรับส่งออกในทวีปยุโรป และอเมริกา
แม้ปี 2560 บริษัทจะเน้นขายสินค้ากลุ่ม HVA ที่มี margin สูงมากขึ้น แต่คาดว่าแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงมาที่ 25.2% เทียบกับ 25.4% ในปี 2559 เนื่องจากปีก่อนหน้าบริษัทได้อานิสงส์จากต้นทุนวัตถุดิบราคาต่ำ สำหรับปีนี้ปัญหามันสำปะหลังล้นตลาดในปัจจุบันทำให้ราคาวัตถุดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่คาดว่าหลังจากนี้เกษตรกรหลายรายอาจหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น อ้อย ส่งผลให้แนวโน้มผลผลิตมันสำปะหลังไทยปีนี้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และดึงราคากลับขึ้นสูงในเวลาถัดมา
"แม้ผลการดำเนินงานปี 2560 จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนในตลาดมันสำปะหลังไทย แต่เราค่อนข้างมองบวกต่อการเติบโตระยะยาว โดยประมาณการกำไรปี 2561-2562 เติบโตเฉลี่ย 11.6% ต่อปี มีปัจจัยบวกจากการขยายฐานลูกค้าและการผลิตในต่างประเทศ โครงการโรงไฟฟ้า Bio-Power (3MW/โรง) เพื่อประหยัดต้นทุนการผลิต ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง คาดเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 3/2560 นี้ ประกอบกับการผลักดันสินค้ากลุ่ม HVA ซึ่งมี Margin สูงและการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายธุรกิจโดยคาดว่ากลยุทธ์ข้างต้นจะสร้างรากฐานมั่นคงเพื่อการเติบโตระดับภูมิภาคอย่างมีเสถียรภาพ เราจึงแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 2560 ที่ 11.80 บาทต่อหุ้น อิง PE ที่ 15 เท่า"
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจแป้งในไตรมาส 2/2560 คาดว่าราคาขายเฉลี่ยของแป้งมันสำปะหลังจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ในขณะที่ Volume ส่งออกแป้งมันสำปะหลังยังเติบโตดีเหมือนเดิม อีกทั้งบริษัทฯ คาดว่าจะมีการขยายกำลังการผลิตของสินค้า Coarse flour หรือแป้งอบหยาบ เพิ่มมากขึ้นราว 100% ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ ส่วนธุรกิจอาหารบริษัทจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน Thai Fex ขณะที่ในไตรมาส 1/2560 ธุรกิจอาหาร ได้แก่ วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว มีการเติบโตมากขึ้นถึง 4%
ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี บริษัทจะเน้นในการขยายการส่งออกและ Van sale ให้สูงขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อยู่ที่ High Single Digit สำหรับธุรกิจหลัก และเตรียมเงินลงทุนไว้ 1,000 – 2,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจต่อยอดจากธุรกิจเดิม พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในอัตราที่สูง เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว และได้รับเงินปันผลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี