กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--IR network
EPCO ปี"60 รับรู้กำไรจากการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเต็มเหนี่ยว เผยที่ Kyoto ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 9.99 MW -ปราจีนบุรี 5 MW เสียบปลั๊กเข้าระบบแล้ว ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานแก๊สธรรมชาติ 360 MWขั้นตอนได้จบไปร้อยละ 88 และทุกอย่างจะจบภายในไตรมาส 2/60 บุ๊คกำไรทันที "ยุทธ ชินสุภัคกุล"เปิดแนวรบใหม่ บุกตลาดโซลาร์รูฟฯ ให้บริการเช่าซื้อระบบผลิตไฟฟ้าใช้เอง ลดค่าไฟและเพิ่ม CSR ให้กับผู้ใช้ พร้อมเข็น EP เข้าตลาดหุ้นภายในปีนี้คาดยื่นไฟลิ่งไตรมาส 3/60 ส่วนธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ยังเติบโตต่อเนื่อง
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า บริษัทฯจะรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น เริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้า Kyoto ขนาดกำลังการผลิต 9.99 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์จำหน่ายกระแสไฟฟ้า (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าปราจีนบุรี (5 เมกะวัตต์) ด้วยเช่นกัน
สำหรับโครงการพลังงานไฟฟ้าใช้พลังงานความร้อนร่วม Co-generation Combined Power Plant จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง EP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO ได้ลงนามเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งทางตรงและทางอ้อม ในสัดส่วน 49.50% ของบริษัท พีพีทีซี จำกัด ( PPTC) และในสัดส่วน 40%ของบริษัท เอสเอสยูที จำกัด( SSUT) ซึ่งโครงการตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู ตามลำดับ รวมมูลค่าตามสัญญาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,159.10 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯได้จ่ายชำระค่าหุ้นและเงินมัดจำไปแล้วจำนวน 2,796.53 ล้านบาท และเริ่มรับรู้กำไรแล้วและจะจบทุกขั้นตอนการซื้อโรงไฟฟ้าดังกล่าวเรียบร้อยภายในไตรมาส 2/60 พร้อมรับรู้กำไรตามสัดส่วนครบทันที
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจไปสู่โครงการเช่าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ Solar roof Top ให้กับหน่วยงานเอกชนเพื่อใช้เอง ซึ่งจะลดค่าไฟฟ้าและเพิ่ม CSR ให้แก่ผู้ใช้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการทั้งสิ้นสองโครงการ กำลังการผลิตรวม 3.1 เมกะวัตต์
พร้อมจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ 2.1 เมกะวัตต์ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2017 และครบถ้วนในเดือน ก.ค. 2017 และมีโครงการอื่นๆรออยู่อีกมาก
ด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ในปีนี้คาดว่ารายได้จากสิ่งพิมพ์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อน จากการเริ่มผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เมื่อผนึกกับรายได้ที่มาจากกลุ่มโรงไฟฟ้าทั้งเก่าและใหม่ คาดว่าจะทำให้รายได้รวมของ EPCO และบริษัทย่อย เพิ่มขึ้นกว่า 50% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งจะก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
นอกจากนี้ EPCO เตรียมที่จะนำบริษัทย่อย คือ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปีนี้อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการยื่นไฟลิ่งได้ภายในไตรมาส 3ของปี 2560 นี้