กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
ธพส. จับมือ กฟน. เปิดตัวโซลาร์เซลล์กว่า 7 พันแผง ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพร้อมเปลี่ยนหลอดแอลอีดีศูนย์ราชการฯ รวมช่วยชาติประหยัดไฟกว่าปีละ 4 ล้านหน่วย
วันนี้ (8 พฤษภาคม 2560) นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมด้วยนายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) ตลอดจนคณะผู้บริหารจากทุกหน่วยงาน ร่วมพิธีแถลงผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอล อี ดี ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการฯ
อธิบดีกรมธนารักษ์ในฐานะประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ในฐานะผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าหนึ่งล้านตารางเมตร (1,039,250 ตร.ม.) และมีจำนวนหน่วยงานราชการใช้ประโยชน์กว่า 40 หน่วยงาน จึงทำให้มีการใช้พลังงานค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าสูงตามไปด้วย ทำให้เป็นที่มาของการขอรับการสนับสนุนโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อช่วยลดพลังงานสิ้นเปลืองและประหยัดไฟฟ้าจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อนำไปสู่การเป็นหน่วยงานประหยัดพลังงานที่ยั่งยืนต่อไป โดยโครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์หลังคา (Solar Rooftop) ขนาดใหญ่ที่สุดในหน่วยงานราชการ บริเวณชั้นดาดฟ้าอาคารรัฐประศาสนภักดี อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หลังคาอาคาร ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ และอาคารจอดรถ 5 ชั้น โดยได้ติดตั้งแผง Solar Rooftop จำนวน 7,375 แผงหรือ 14,442 ตารางเมตร และผลิตไฟฟ้าได้ 2.20 เมกกะวัตต์ จากลงทุนรวมประมาณ 160 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 12 ปี เนื่องจากเป็นหน่วยงานราชการใช้ไฟฟ้าในวันและเวลาราชการเท่านั้น และมีการเปลี่ยนหลอดไฟจากเดิมมาเป็นหลอดไฟแอล อี ดี เพื่อปรับปรุงระบบแสงสว่างโดยเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางในอาคารสำนักงานและไฟถนน เป็นหลอดไฟแอล อี ดี ทั้งหมดจำนวน 38,017 หลอด โดยได้ดำเนินการในพื้นที่สองส่วน ได้แก่ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ประกอบด้วย อาคารราชบุรีเรกฤทธิ์ อาคารรัฐประศาสนภักดี อาคารศูนย์ประชุม กลุ่มอาคารสาธารณูปโภค อาคารจอดรถ 5 ชั้น และพื้นที่ส่วนที่ 2 คือไฟถนน ทั้งนี้ ตามสัญญาระหว่าง ธพส. กับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ใช้ระยะเวลาดำเนินงาน 10 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2559 ถึงวันที่ 11 พ.ค. 2560 ซึ่ง ธพส. มีความเชื่อมั่นให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะหน่วยงานที่มีความรู้ความชำนาญ และมีมาตรฐานในงานดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งการร่วมกันดำเนินโครงการในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญ ซึ่งอาจมีการขยายผลต่อเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในโอกาสต่อไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า กฟน. มุ่งมั่นเป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล มีความยินเป็นอย่างยิ่งที่ ธพส. มอบความไว้วางใจให้ กฟน. เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอล อี ดี ณ ศูนย์ราชการฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ ในฐานะศูนย์รวมหน่วยงานราชการมากกว่า 40 หน่วยงาน สำหรับการติดตั้งแผง Solar Rooftop จำนวน 7,375 แผงหรือ 14,442 ตารางเมตร จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 2.20 เมกกะวัตต์ จึงทำให้สามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 3-4 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 7-9 ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของศูนย์ราชการฯ โดยเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,800 -2,400 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ หรือประเมินได้เท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวน 20 ไร่ และการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้ามาเป็นหลอดไฟแอล อี ดี จำนวน 38,017 หลอด จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของพื้นที่ส่วนกลางของศูนย์ราชการฯ ได้ประมาณ 1 ล้านหน่วยต่อปี โดยเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 625 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าทั้งในแง่ของการประหยัดค่าไฟฟ้า ตลอดจนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจากการลดใช้พลังงานดังกล่าวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแผง Solar Rooftop ควรติดตั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานโดยหน่วยงานที่มีประสบการณ์และควบคุมงานด้วยวิศวกรผู้ชำนาญ เพื่อให้องค์กรได้แผง Solar Rooftop พร้อมระบบการควบคุมการจ่ายไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มีการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ ทั้งนี้ กฟน. ได้มีการพัฒนาคุณภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันนอกเหนือจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการแล้ว กฟน. ยังได้มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตของ กฟน. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่สำคัญในการนำส่งรายได้เพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจุบัน กฟน. ได้มีการจัดตั้งฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง เป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านออกแบบ และติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง บริการด้านระบบไฟฟ้าใต้ดิน บริการด้านบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า บริการด้านวิศวกรรมระบบอาคาร บริการด้านธุรกิจพลังงาน โดยมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผสมผสานกับเครื่องมือและการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการพัฒนาด้านการให้บริการไฟฟ้าแก่ผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ขอรับบริการจึงมีความมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและปลอดภัย เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับหน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจต้องการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง เบอร์โทรศัพท์ 0-2878-5288