กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--ปตท.สผ.
ปตท.สผ. และ PTTEP AAเชื่อมั่นในผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีความเสียหายตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลอินโดนีเซียที่ปรากฏในสื่อสำหรับประเด็นการยึดทรัพย์สินของ ปตท.สผ. และPTTEP AA เชื่อว่าไม่น่าจะดำเนินการได้ตามหลักกฎหมาย
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า "ปตท.สผ. และ PTTEP AA ยังไม่ได้รับเอกสารเกี่ยวกับการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ และได้เตรียมความพร้อมในการต่อสู้คดี ซึ่งที่ปรึกษากฎหมายได้ให้ความเห็นในเบื้องต้นว่า การยึดทรัพย์สินของ ปตท.สผ. และ PTTEP AA ไม่สามารถกระทำได้ตามหลักกฎหมาย"
สำหรับการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียนั้น ปัจจุบัน บริษัทPTTEP Netherlands Holding Coöperatie U.A. (บริษัทย่อยของ ปตท.สผ.) มีโครงการผลิตปิโตรเลียม จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการนาทูน่า ซี เอ โดยถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 11.5 โดยมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 224 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และน้ำมันดิบประมาณ 1,200 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 1 ของปริมาณการขายทั้งหมดของ ปตท.สผ. ทั้งนี้ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ ปตท.สผ. มีกลยุทธ์ในการเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ปตท.สผ. จำเป็นต้องระงับการตัดสินใจการลงทุนในโครงการที่ได้ศึกษาไว้ในปัจจุบันออกไปก่อนจนกว่าจะมีข้อยุติในเรื่องนี้
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์มอนทารา สามารถศึกษาได้ที่http://www.pttep.com/en/Newsandnmedia/Medialibrary/Ptteppublications/Montaraalessonlearned.aspx