TPIPP โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ทำนิวไฮ 698 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นได้เฮ บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.10 บาทต่อหุ้น มั่นใจโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง COD ได้ทันภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 9, 2017 16:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง ที่ใหญ่ที่สุดในไทย เปิดฉากไตรมาสแรกของปีนี้ได้สวย ทำผลการดำเนินงานนิวไฮ มีกำไรสุทธิพุ่ง 698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านผู้ถือหุ้นได้เฮ หลังบอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ถึงงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหารเผยความคืบหน้าโรงไฟฟ้าใหม่อีก 3โรง โดยโรงไฟฟ้าถ่านหิน –RDF 70 MW (TG7) ได้ผ่านการพิจารณารายงาน EIA แล้ว คงเหลืออีก 2 โรง อยู่ระหว่างพิจารณารายงาน EIA มั่นใจเริ่ม COD ได้ทันภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทย รวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60บริษัทฯ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ โดยมีรายได้รวม 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.00% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,203 ล้านบาท และสูงกว่าไตรมาส 4/59 ที่มีรายได้รวม 1,226 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/60 มีจำนวน 698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท และสูงกว่าไตรมาส 4/59 ที่มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานโดดเด่นเป็นสถิติใหม่นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งบริษัทฯ มาจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทย ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังได้ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรแล้วเสร็จส่วนหนึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาสแรกของปีนี้ได้รวม 197.10 ล้านหน่วย ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและสูงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้รวม 181.39 หน่วย และ 180.43 หน่วยตามลำดับ "บริษัทฯ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 20 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 60 MW ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ซึ่งได้รับ Adderที่ 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถผลิตปริมาณไฟฟ้าได้สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินกิจการ" นายภัคพล กล่าว ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลถึงงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 (มกราคม-มีนาคม 2560) แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ0.10 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 เดือน พฤษภาคม 2560 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 24 เดือน พฤษภาคม 2560 และจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 2 เดือน มิถุนายน 2560 นี้ นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPIPP กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรและเตรียมติดตั้งหม้อผลิตไอน้ำสำรองในโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปีนี้ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมติดตั้งหม้อผลิตไอน้ำสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 60 MW และติดตั้งหม้อผลิตไอน้ำสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะแห่งใหม่ 70 MW ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยคาดว่าการติดตั้งจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/60ถึงไตรมาส 1/61 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงในการผลิตกระแสไฟฟ้ารวมถึงสร้างรายได้แก่การดำเนินงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าการเปิดดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าใหม่อีก 3 โรงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะมีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 290 MW รวมเป็น 440 MW นั้น โดยโรงไฟฟ้าถ่านหิน-RDF 70 MW (TG 7) ได้ผ่านการพิจารณารายงาน EIA แล้ว คงเหลืออีก 2 โรง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงาน EIA) จากภาครัฐ คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ