กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--บลจ.กสิกรไทย
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) ในอัตรา 0.35 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน ซิลเวอร์เอจ หุ้นทุน (K-EUSAGE) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2559 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 โดยทั้ง 5 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้กองทุน K-USA, K-ASIA,K-INDIA และ K-EUROPE มีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 และกองทุน K-EUSAGE มีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 386 ล้านบาท
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน K-USA มีความโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นสหรัฐฯในตลาด ซึ่งที่ผ่านมากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงเป็นอันดับที่ 1 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 3 เดือน อยู่ที่ 8.71% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 4.77% ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 18.44% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 18.01% ต่อปี และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 12.93% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 10.61% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2560) เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเติบโตในกลุ่มไอที และสินค้าฟุ่มเฟือยที่กองทุนเข้าไปลงทุน สำหรับในด้านภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโต ด้วยแรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรกที่ส่วนใหญ่ออกมาดี และคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนจะอยู่ที่ 12.5% ในไตรมาสแรก (ที่มา: รายงาน FactSet Research Systems Inc (FDS) ณ 28 เม.ย. 60) อย่างไรก็ดีผู้ลงทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างเกาหลีเหนือ และสหรัฐฯ รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ และอาจส่งผลทำให้ตลาดการเงินผันผวนในระยะสั้นได้
สำหรับดำเนินงานของกองทุน K-ASIA มีการปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับตลาดหุ้นเอเชียในภาพรวม โดยกองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 10.90% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 9.01% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 21.0% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 12.60% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2560) ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน K-INDIA ก็ให้ผลการดำเนินงานย้อนหลังเป็นที่น่าพอใจ และสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานเช่นเดียวกัน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 15.48% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 14.57% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ 28.45% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 25.35% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2560) ทั้งนี้ กองทุน K-INDIA ยังคงให้น้ำหนักกับธุรกิจที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศนั้นมีแนวโน้มผลประกอบการขยายตัวดีจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว ได้แก่ ธุรกิจกลุ่มสุขภาพ IT และ สินค้าอุปโภค โดยกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นลงทุนในหุ้นหลากหลายขนาด (Multi-Cap) เพื่อช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กองทุน สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียนนับว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี มีการขยายตัวในระดับสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยมีประเทศจีนและอินเดียเป็นสองตลาดหลัก นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลายประเทศในอาเซียนยังเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนสามารถขยายตัวได้สูงเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ในขณะที่ระดับราคาก็ยังต่ำกว่า โดยราคาหุ้นเอเชียยังอยู่ในระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีต
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน K-EUROPE ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นนำตลาดหุ้นยุโรปในภาพรวม โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน K-EUROPE ในช่วง 3 เดือนย้อนหลัง อยู่ที่ 10.52% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 9.95%, ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ 17.04% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 14.71%, ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 16.07% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 14.08% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 10.62% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 7.95% ต่อปี นอกจากนี้กองทุน K-EUROPE ยังได้รับการจัดอันดับเรตติ้ง 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูลจาก Morningstar® ณ 31 มี.ค. 2560) ในด้านผลการดำเนินงานของกองทุน K-EUSAGE อาจมีบางช่วงที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่โดยรวมแล้วยังคงให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยในช่วง 3 เดือนย้อนหลังผลการดำเนินงาน อยู่ที่ 9.03%เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 8.17%, ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ 15.26% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 15.32% ด้านภาพรวมเศรษฐกิจในยุโรปมีแนวโน้มขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยธนาคารกลางยุโรปยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบผ่าน QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงของการล่มสลายของสหภาพยุโรปก็เริ่มผ่อนคลายลง หลังจากที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้มีแนวคิดสนับสนุนให้ฝรั่งเศสอยู่ในสหภาพยุโรป ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส โดย บลจ.กสิกรไทย มองว่าตลาดหุ้นยุโรปน่าจะยังคงปรับตัวขึ้นโดดเด่น เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยราคาหุ้นยังอยู่ในระดับสมเหตุสมผล และอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองน่าจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้งของอังกฤษในเดือนมิถุนายน ซึ่งอาจทำให้ตลาดมีความผันผวนในระยะสั้น
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-USA กองทุน K-ASIA กองทุน K-INDIA กองทุน K-EUROPEและกองทุน K-EUSAGE สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888