กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--กรมฝนหลวงและการ บินเกษตร
วันที่ 9 พฤษภาคม 2560 เวลา 12.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ผลักดันนโยบายสำคัญในเรื่องเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งเป็นนโยบายในการยกระดับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรในประเทศให้ดีขึ้น โดยมีผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เน้นให้ความสำคัญ และจากข้อมูลพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ในส่วนของการปลูกอ้อย พบว่าบางพื้นที่เริ่มมีการเพาะปลูกใหม่หลังจากการเก็บเกี่ยวไปแล้ว แต่เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในบางพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำฝน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้เร่งปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ที่มีการเพาะปลูกอ้อย
โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มอบหมายให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพื้นที่ไร่อ้อยของเกษตรกรแปลงใหญ่ ตลอดจนลุ่มรับน้ำเขื่อน ลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำมูลบน เขื่อนลำแซะ เขื่อนลำปลายมาศและเขื่อนลำนางรอง โดยขึ้นบิน จำนวน 7 เที่ยวบิน 7.20 ชั่วโมงบิน ใช้สารฝนหลวง 7.6 ตัน ทำให้เกิดฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณ อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ยังให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี ขึ้นบินจำนวน 6 เที่ยวบิน เป็นเวลา 7.2 ชั่วโมงบิน ปริมาณใช้สารฝนหลวง 4.2 ตัน ทำให้ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณอำเภอเมือง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ที่มีการปลูกอ้อยซึ่งเริ่มมีการเพาะปลูกใหม่เป็นส่วนใหญ่
สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม – 8 พฤษภาคม 2560 มีการ ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 64 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 97.4 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 1,193 เที่ยวบิน (1705:10 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 1031.80 ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 353 นัด และภารกิจปฏิบัติการยับยั้งความรุนแรงพายุลูกเห็บ จำนวน 1,045 นัด จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 55 จังหวัด และทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 211.20 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ เพจFacebook กรมฝนหลวงและการ บินเกษตร หรือ เว็บไซต์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร