กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ – SORKON โชว์ผลงานไตรมาส 1Q60 เติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 661.9 ล้านบาท หลังกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริหารด่วนหรือ QSR และอาหารทะเลแปรรูป เป็นหัวหอกดันการเติบโตโดดเด่น ด้านผู้บริหารเดินแผนเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ชูโมเดลเร่งขยายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ แซ่บคลาสสิกและร้านข้าวหมูยูนนาน ตั้งเป้ากลุ่มธุรกิจ QSR โตไม่ต่ำกว่า 40% ช่วยหนุนภาพรวมการดำเนินงานทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 บริษัทฯ มีรายได้รวม 661.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 632.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.4 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 35% รองลงมาได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (กลุ่มลูกชิ้นปลา) เติบโต 4 % ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมืองและธุรกิจขนมขบเคี้ยว มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้โดยภาพรวมบรรยากาศกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่คึกคักมากนักก็ตาม
สำหรับปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ QSR มาจากยอดขายของร้านแซ่บคลาสสิก ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากขึ้น ทั้งในส่วนที่เข้ามาใช้บริการภายในสาขาหรือการสั่งซื้อสินค้าเพื่อกลับไปทานที่บ้าน (เดลิเวอรี่) ผ่านระบบ Call Center 02-082-8000 ที่พบว่าทำสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของยอดขายรวมทั้งหมด เช่นเดียวกับร้านข้าวขาหมูยูนนานก็ทำยอดขายได้สูงขึ้นเช่นกัน
"เราพอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีที่สามารถผลักดันการเติบโตของธุรกิจ QSR ได้อย่างโดดเด่น ซึ่งกลุ่มธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ From Farm to Table ของกลุ่ม ส.ขอนแก่น ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มและผลักดันความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของ ส.ขอนแก่น มากยิ่งขึ้น" นายเจริญ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SORKON กล่าวว่า แนวทางดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ จะปรับกลยุทธ์ของธุรกิจ QSRให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยชูโมเดลเน้นขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนขยายสาขาเพิ่มเติม จากเดิมบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเปิดสาขาเองทั้งหมด โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีสาขาแซ่บ คลาสสิก เปิดให้บริการจำนวน28 สาขา แบ่งเป็น บริษัทฯ ที่เป็นผู้ลงทุนเองจำนวน 14 สาขา และเป็นของแฟรนไชน์อีกจำนวน 14 สาขา พร้อมกันนี้ยังมีแผนเมนูอาหารใหม่ๆ ที่ได้รับนิยมจากลูกค้าคนไทยและต่างชาติ
ส่วนร้านข้าวขาหมูยูนาน บริษัทฯ จะเน้นการเปิดสาขาขนาดเล็กหรือ คีออส ผ่านการขายแฟรนไชส์แก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งใช้เงินลงทุนเพียง 100,000 บาท หวังรุกเข้าสู่แหล่งชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเปิดร้านข้าวขาหมูเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าภายปีนี้จะเปิดเพิ่มได้อีก 30 แห่งทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน จาก ณ สิ้นปี 2559 ที่มีอยู่ 24 แห่ง แบ่งเป็นสาขาในประเทศไทยจำนวน 19 สาขา กัมพูชา 3 สาขา ลาว 2 สาขา พร้อมกันนี้ ยังจะจัดทำสินค้าขาหมูพร้อมทานไปวางจำหน่ายภายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ รองรับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อกลับไปทานที่บ้านอีกด้วย
ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจ QSR ในปีนี้ทำยอดขายแติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาทและช่วยผลักดันให้ภาพรวมการดำเนินงานของ ส.ขอนแก่นในปีนี้ สามารถทำยอดขายรวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามแผนที่วางไว้