กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--IR network
บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ไม่ทำให้ผิดหวัง ปั๊มผลงานไตรมาส 1/2560 กำไรสุทธิ 55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 131% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" ระบุภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รับปัจจัยบวกงานภาครัฐ-เอกชนขับเคลื่อน หนุนงานให้มือพุ่ง มั่นใจปั๊มรายได้ปีนี้แตะ 5,000-5,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-25%
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1/2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 131% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2559 ที่มีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรขั้นต้นของงานขายและบริการติดตั้งเท่ากับ 180 ล้านบาท คิดเป็น 17.75% ของรายได้จากการขายและบริการติดตั้งในไตรมาส 1/2560 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเท่ากับ 34 ล้านบาท คิดเป็น 23.33% โดยกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า เพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 14% เนื่องมาจากสินค้าหลักของบริษัท มีราคาเพิ่มขึ้นตามราคาตลาด
สำหรับภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังของบริษัทและบริษัทย่อย เชื่อว่ามีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภายในประเทศ อาทิ โครงการนำสายไฟลงใต้ดิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงการลงทุนจากภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งศูนย์การค้า ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้และหนุนงานในมือของบริษัทฯ ให้เพิ่มขึ้น
"ธุรกิจเทรดดิ้งยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และน่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้ภาครัฐมีการลงทุนด้านโครงการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย จากการสั่งซื้อสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสายไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ขณะที่ธุรกิจโทรคมนาคมยังมีแนวโน้มอยู่ในทิศทางที่ดี "นายสมพงษ์กล่าวในที่สุด
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 700 ล้านบาท ธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,000-5,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20-25% แบ่งเป็นการเติบโตที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 3.9 พันล้านบาท และธุรกิจติดตั้งเสาโทรคมนาคมประมาณ 1.3 พันล้านบาท