กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--Good Media Creation
ไมค์ วาน ประธานแอลพีจีเอ ได้รับเกียรติอย่างสูงให้ได้รับรางวัลผู้บริหารด้านกีฬาดีเด่นแห่งปี (Sports Executive of the Year) ในงานมอบรางวัล ไซน็อบซิส สปอร์ตส์ มีเดีย อวอร์ดส์ (Cynopsis Sports Media Awards) ประจำปี ครั้งที่ 6 ซึ่งที่ผ่านมา แกรี เบทท์แมน ประธานเนชั่นแนล ฮอกกี้ ลีก และ ดอน การ์เบอร์ ประธานเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ เคยได้รับรางวัลนี้มาก่อนหน้านี้ โดยงานมอบรางวัลจัดขึ้นที่สโมสรนักกีฬาแห่งนิวยอร์ก (New York Athletic Club) สหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้
ไมค์ วาน ดำรงตำแหน่งประธานแอลพีจีเอ หรือ สมาพันธ์กอล์ฟอาชีพสตรี เป็นคนที่ 8 ตั้งแต่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ตลอดระยะเวลา 7 ปี ในการดำรงตำแหน่งในแอลพีจีเอ เขาได้บริหารงานและวางแนวทางให้กับองค์กรให้สอดคล้องกับช่วงเศรษฐกิจขาลง และทำให้แอลพีจีเอ ทัวร์ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยการขยายความร่วมมือทางธุรกิจ สร้างตารางการแข่งขันทั่วโลกให้เติบโตขึ้น เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมการแข่งขัน และเพิ่มการรับรู้ให้กับสมาชิกทั้งหลาย
คริส เพอร์เซลล์ Head of Content ของไซน็อบซิส สปอร์ตส์ เผยว่า "ในการเสนอชื่อผู้เข้ารับรางวัล เราพิจารณาจากฤดูกาลที่ผ่านมา และวัดจากความนิยม รวมทั้งผู้สนับสนุนรายใหม่ สื่อที่เข้ามาเป็นผู้ร่วมสนับสนุน และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ การเติบโต และอื่น ๆ ซึ่งสำหรับเรา แอลพีจีเอ มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้านในปีที่ผ่านมา"
ด้วยมุมมองและการคิดแบบภาพรวม ทักษะทางด้านการตลาดที่แข็งแกร่ง และการบริหารความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมของ ไมค์ วาน ทำให้จำนวนรายการแข่งขันของแอลพีจีเอ เพิ่มขึ้นจาก 23 รายการในปี 2011 เป็น 34 รายการในปี 2017 ในขณะที่ความนิยมในการดูรายการทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นครั้งแรกที่จำนวนชั่วโมงการออกอากาศเกิน 400 ชั่วโมงในปีที่แล้ว
การเติบโตอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยการแข่งขันตลอดทั้งปี 2016 มีเงินรางวัลรวมเพิ่มขึ้นกว่า 4.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายการแข่งขันเกิดใหม่ถึง 4 รายการในฤดูกาลนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่นิวซีแลนด์, สก็อตแลนด์, กรีนเบย์ และอินเดียนาโปลิส
รายการแข่งขัน 11 รายการได้หวนคืนสู่ตารางการแข่งขันในปีนี้ รวมทั้งมีเงินรางวัลเพิ่มขึ้น อีกทั้งรายการเมเจอร์ 4 รายการก็มีเงินรางวัลที่มากขึ้นด้วย โดยรายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ที่จัดการแข่งขันโดยยูเอสจีเอ ได้สร้างสถิติใหม่โดยมีเงินรางวัลสูงถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในช่วงปีที่แล้ว รายการแข่งขันทั่วโลกของแอลพีจีเอ มีแชมป์ 18 คนที่มาจาก 12 ประเทศ และแชมป์เมเจอร์แต่ละคนจากทั้ง 5 รายการ จาก 5 ประเทศไม่ซ้ำกัน ส่วนในปีนี้ แอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมสร้างประสบการณ์ให้กับแฟนกอล์ฟทั้ง 235 ประเทศทั่วโลกผ่านทางเว็บไซต์ของแอลพีจีเอ และถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปยัง 175 ประเทศ รวมทั้งรายการเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 รายการ ที่จะได้ถ่ายทอดไปสู่ 500 ล้านหลังคาเรือนทั่วโลก
ช่วงเวลาที่ ไมค์ วาน ดำรงตำแหน่งอยู่นั้น เขาได้สร้างนักกอล์ฟหน้าใหม่ให้กับวงการกอล์ฟ โดยแชมป์ของแอลพีจีเอในปี 2016 มีอายุเฉลี่ย 22.3 ปี และในบรรดาแชมป์เหล่านี้ กว่าร้อยละ 70 มีอายุต่ำกว่า 24 ปี คลื่นลูกใหม่ที่เข้ามาสู่วงการเหล่านี้เริ่มต้นจากระดับรากหญ้าด้วยการเข้าโปรแกรมการพัฒนาของแอลพีจีเอ-ยูเอสจีเอ เกิร์ลส์ กอล์ฟ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 เปอร์เซ็นต์ จาก 4,500 คนในปี 2010 เป็น 60,000 คนในปี 2016
ไมค์ วาน ประธานแอลพีจีเอ เจ้าของรางวัลผู้บริหารด้านกีฬาดีเด่นแห่งปีคนล่าสุด กล่าวว่า "นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ตอนผมเข้ามารับตำแหน่งผมประกาศว่าผมจะทำ 3 อย่างให้สำเร็จ คือผมอยากจะสร้างกีฬากอล์ฟให้ไร้พรมแดน มีความเป็นสากล ทั่วโลก และให้โอกาสแฟนกอล์ฟที่ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็มีโอกาสได้รับชมการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ สมัยก่อนเราเผยแพร่ภาพไปเพียงแค่ 20 ประเทศ แต่ในปัจจุบันคลอบคลุม 175 ประเทศทั่วโลก และเราจะขยายไปเรื่อยๆ สุดท้ายคือ ผมต้องทำให้แน่ใจได้ว่ากอล์ฟจะเป็นกีฬาที่อยู่ในความนิยมระดับต้นๆ ไม่เพียงในโลกของกอล์ฟเท่านั้น แต่ต้องเป็นหนึ่งในโลกของกีฬาในภาพรวมด้วย ซึ่งการทำงานนี้คงไม่มีจุดสิ้นสุดอย่างแน่นอน"
โดยก่อนหน้านี้ ไมค์ วาน กล่าวชื่นชมวงการกอล์ฟสตรีของไทยว่า "ช่วงแรกๆ ที่แอลพีจีเอเข้ามาจัดการแข่งขันในประเทศไทยใหม่ๆ ยังไม่มีนักกอล์ฟหญิงของไทยมากนัก แต่ปีที่แล้วผมจำได้ว่ามีนักกอล์ฟไทยที่เข้าคิวสคูลจำนวนมากเป็นอันดับสอง รองจากสหรัฐอเมริกา และในปี 2017 นี้ หนึ่งนักกอล์ฟหญิงที่ดีที่สุดของโลกมาจากประเทศไทย อย่างที่ผมกล่าวเสมอว่าแฟนกอล์ฟชาวไทยต่างตื่นเต้นกับผู้เล่นฝีมือดีอย่าง เอรียา-โมรียา จุฑานุกาล และพรอนงค์ เพชรล้ำ ซึ่งนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีคลื่นลูกใหม่ที่กำลังมาและน่าจับตามองเช่นกันไปอีกอย่างน้อยก็ 20 – 30 ปี ข้างหน้า"
สำหรับการมอบรางวัลผู้บริหารด้านกีฬาดีเด่นแห่งปี (Cynopsis Sports Media Awards) นั้นมีหลายสาขาด้วยกัน ได้แก่ สาขากีฬา, สื่อ, การตลาด, เทคโนโลยี และแฟนผู้ติดตาม รวมทั้งรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้กับสาขาที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาที่เป็นที่นิยม การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสร้างแคมเปญด้านการตลาด เช่นเดียวกับสาขาบุคคลผู้ขับเคลื่อนให้วงการต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ
ผู้ได้รับรางวัล Vision Award ในปีที่ผ่าน ๆ มา ได้แก่ เบรน ฟรานซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบริษัท NASCAR (ปี 2014), แกรี่ เบทท์แมน ประธานเนชั่นแนล ฮอกกี้ ลีก (ปี 2015) และ ดอน การ์เบอร์ ประธานเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ (ปี 2016)
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lpga.com