กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--IR PLUS
COM7 ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไอที อวดงบ Q1/60 รายได้โต 23.3% อยู่ที่ 4,913.3 ลบ. ส่วนกำไรสุทธิโต 34.8 % อยู่ที่ 119.6 ลบ. ย้ำ เป้าหมายรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10% จากเทคโนโลยีและสินค้าไอทีมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนและไอโฟนที่ยังบูมสุดๆ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นสินค้าและบริการที่มีมาร์จิ้นสูง เจาะตลาดการขายโทรศัพท์มือถือพ่วงซิมที่คาดว่าจะพุ่งแรง ตั้งเป้าปีนี้ขายได้ 1.8 แสนเบอร์ จากสิ้นปี 59 ทำได้ 1.3 แสนเบอร์ "สุระ คณิตทวีกุล" แม่ทัพใหญ่ ชูจุดเด่นช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันมีร้านค้าปลีกไอทีรวมกัน 390 สาขา วางเป้าสิ้นปีนี้จะมี 500 สาขา พร้อมรุกตลาดกลุ่ม SME และ Education เพิ่ม แย้มอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอยู่เรื่อยๆ
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ในนาม BaNANA, Studio 7, BKK และ iCare เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจในปี 2560 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายของธุรกิจ COM7 ตั้งเป้าทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องทั้งในแง่ของรายได้และกำไร โดยวางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 17,211.6 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเทคโนโลยี สินค้าไอที และโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา
โดยล่าสุด COM7 ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2560 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560) รายได้รวมอยู่ที่ 4,913.3 ล้านบาท ล้านบาท เพิ่มขึ้น 927.5 ล้านบาท หรือ 23.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,985.8 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 664.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130.3 ล้านบาท หรือ 24.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 534.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) อยู่ที่ 119.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 88.7 ล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญมาจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการซื้อสินค้าโดยตรงจาก Apple ทำให้ได้รับสินค้าเพียงพอต่อการขาย และมีอัตรากำไรที่ดี การร่วมเป็นพันธมิตรกับ TRUE ซึ่งได้มีการจัดโปรโมชั่นการเปิดเบอร์โทรศัพท์พร้อมส่วนลดในการซื้อสินค้ากระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้น นอกจากนี้ การขยายสาขาจากการซื้อสินทรัพย์ของบริษัท บางกอก เทเลคอม 999 จำกัด (BKK) จำนวน 44 สาขา ในเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา และการจัดโปรโมชั่น กิจกรรมการตลาด การได้รับการสนับสนุนการขายจากแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น และเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้ามาในพอร์ต อาทิ HUAWEI, OPPO สนับสนุนทิศทางยอดขายในปีนี้ให้คึกคักตั้งแต่ช่วงโค้งแรกของปี และคาดว่าแนวโน้มไตรมาส 2/2560 จะเติบโตต่อเนื่องอีก
กลยุทธ์ปีนี้ COM7 พร้อมรุกทุกตลาดไอที มุ่งเน้นการขยายอัตรากำไรให้สูงขึ้นในสินค้าและบริการที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจขายโทรศัพท์เคลื่อนที่พ่วงกับซิมและแพ็กเกจจากค่ายมือถือ มองว่ายังเติบโตได้ดี ตั้งเป้าปีนี้บริษัทฯ จะสามารถขายเครื่องพ่วงซิมจำนวน 1.8 แสนเลขหมาย จากสิ้นไตรมาส 1/2560 ทำได้แล้ว 4.7 หมื่นเลขหมาย และสิ้นปี 2559 ที่ผ่านมา ตั้งเป้าไว้ 1 แสนเลขหมาย ก็สามารถขายเครื่องพ่วงซิมได้ถึง 1.3 แสนเลขหมาย นอกจากนี้ COM7 เป็นพันธมิตรกับ TRUE ทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์ในการทำโปรโมชั่นต่างๆ ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และยังได้รับส่วนแบ่งรายได้ในการขายซิมพร้อมแพ็กเกจของ TRUE เพิ่มขึ้น เป็นอีกปัจจัยสำคัญสนับสนุนยอดขายและอัตรากำไรที่ดีอย่างต่อเนื่องในปีนี้
ขณะที่ยอดขายสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนยังเติบโตได้อีก จากสินค้าใหม่ที่ทยอยออกมากระตุ้นตลาด และการได้พันธมิตรแบรนด์ใหม่ๆ รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายเพื่อรุกตลาดสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทำให้เชื่อว่าในปีนี้ COM7 ตั้งเป้ามียอดขายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 3 พันล้านบาท จากเมื่อสิ้นปี 2558 และ 2559 บริษัทฯ มียอดขายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาทตามลำดับ ส่วนยอดขาย iPhone ของบริษัทฯ มีทิศทางที่ดี โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากในไตรมาส 1/2560 ที่ผ่านมายอดขายสินค้ากลุ่ม iPhone เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 20% ตอกย้ำ COM7 เป็นเบอร์หนึ่งทั้งในแง่ของยอดขายและปริมาณสาขามากที่สุดในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดแข็งสำคัญจากการมีช่องทางการจำหน่ายมากที่สุดและครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสิ้นปี 2559 บริษัทฯ มีสาขารวมกันแล้วทั้งสิ้น 368 สาขา ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีสาขารวมกันกว่า 500 สาขา จากการขยายสาขาภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ โดยใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท รวมทั้ง การทยอยเข้าไปบริหารจัดการทรูช้อปเพิ่ม โดยสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ COM7 มีสาขารวมกันแล้ว 390 สาขา ได้แก่ BaNANA 161 สาขา, Studio 7 จำนวน 92 สาขา , Samsung 10 สาขา , iCare 21 สาขา, BKK 44 สาขา และ TRUE 62 สาขา รวมทั้งพัฒนาช่องทางการจำหน่ายผ่านออนไลน์ให้แข็งแกร่ง รุกตลาดอีคอมเมิร์ซ ภายใต้ชื่อ Banana Store เสริมช่องทางให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการ COM7 ให้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ เข้าไปรุกตลาดโซลูชั่น ให้บริการเทคโนโลยีและสินค้าไอทีแก่ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ทั้งธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ภายใต้แบรนด์ BaNANA Business ซึ่งปัจจุบันมีแฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรกที่พันธ์ทิพย์ พลาซ่า เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งรุกลูกค้ากลุ่มมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา จึงตั้งเป้าหมายปีนี้มียอดขายสินค้ากลุ่ม SME และ Education อยู่ที่ประมาณ 8 ร้อยล้านบาท จากปัจจุบันตุน Backlog ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวแล้ว 300 ล้านบาท
"ในปี 60 เราเชื่อว่าตลาดไอทียังมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนที่ยังคงบูมต่อเนื่อง จากแบรนด์มือถือค่ายต่างๆ ทยอยออกสินค้ารุ่นใหม่และมีการทำโปรโมชั่น อีกทั้ง ตลาดสมาร์ทโฟนสำหรับ COM7 ยังเล็กมาก เมื่อเทียบกับจำนวนสาขาและยอดขายทั้งหมดที่เรามี เพราะเราพึ่งเริ่มทำไม่นาน จึงมองว่ามีโอกาสเติบโตสูง และมั่นใจว่า COM7 มีจุดแข็งจากการมีสินค้าไอทีครอบคลุมและช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศ จะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อยอดธุรกิจได้อีกมากมาย ตั้งเป้าสิ้นปีมีสาขารวมกันกว่า 500 สาขา ทั้งจากการขยายสาขาผ่านแบรนด์ของตัวเอง แบรนด์ของพันธมิตร และล่าสุดได้เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่โซนไอทีให้เทสโก้ โลตัส นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ประเภทกล้องเข้ามาจำหน่าย คาดจะสนับสนุนพอร์ตสินค้าไอทีของบริษัทฯ ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น พร้อมตั้งเป้าเปิดร้านกล้องในปีนี้ 5 สาขาก่อน และพิจารณาแผนขยายต่อไปในอนาคต หวังชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม" นายสุระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม COM7 มองเห็นโอกาสการเติบโตจากการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบต่างๆ โดยปัจจุบันได้เข้าไปเจรจา พูดคุยกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นอย่างสูงสุดเป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าอาจเห็นความชัดเจนจำนวน 1 ดีลเร็วๆ นี้ สนับสนุนบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว