กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ส.อ.ท.
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) แถลงข่าวการจัดงาน Ind-tech Hackathon เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2560 เวลา 14.00 - 15.00 น. ณ ห้องประชุม ส.อ.ท.1 ชั้น 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อนำเสนอแนวคิดและมุมมองที่จะเป็นต้นแบบที่จะนำมาพัฒนาเสริมสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสังคมของผู้สูงอายุ (Aging Society) ให้สอดคล้องกับนโยบาย Industry 4.0 ก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ได้อย่างมั่นคง
นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมฯ มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมในกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ Industry 4.0 โดยเริ่มจากการสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้ผู้ประกอบการเห็นความสำคัญของการยกระดับอุตสาหกรรม พัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมจึงได้บูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และแรงงาน โดยการดำเนินงานที่มีทิศทางไปในแนวทางเดียวกัน มีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ชัดเจน เพื่อผลักดันให้มีการดำเนินโครงการนำร่องในการพัฒนาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยอย่างเป็นระบบ มาปรับใช้เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ จึงได้จัดทำโครงการ Ind-tech Hackathon ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) โดยให้ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) เป็นสถาบันการศึกษานำร่องในการดำเนินการจัดงาน โดยเน้นการพัฒนากลุ่มสังคมของผู้สูงอายุ Aging Society เปลี่ยน "ปัญหาและความท้าทาย" ให้เป็น "ศักยภาพและโอกาส" ในการสร้างความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืนให้กับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยการเปลี่ยนจากปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ให้เป็น สังคมผู้สูงอายุที่มีพลัง (Active Aging) ต่อไป
โดยงานดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมภายใต้นโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เกิดผลิตภาพสูงสุด
นายธนารักษ์ฯ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการรวมตัวของคนมีไอเดียสร้างสรรค์ ทุกแขนง ไม่จำกัดอายุ เพศ และการศึกษา มารับฟังโจทย์เพื่อนำเสนอแนวคิดและมุมมองที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาเสริมสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสังคมของผู้สูงอายุ (Aging Society) ให้สอดคล้องกับนโยบาย Industry 4.0 ซึ่งจะทำให้ก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ได้อย่างมั่นคง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมเกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ เกิดการลงมือทำจริงโดยมีโจทย์ที่เหมือนกัน อีกทั้งผู้เข้าร่วมตระหนักถึงความสำคัญของกลุ่มสังคมผู้สูงอายุต่อการพัฒนาประเทศ และสามารถหา แนวคิด กระบวนการ แนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรม และประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0
โดยเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 20 ทีม ทีมละไม่เกิน 4 คน หรือ ไม่เกิน 80 คน ตั้งแต่วันที่ 12 – 31 พฤษภาคม 2560 ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
1. ประชาชนชาวไทย ไม่จำกัด อายุ เพศ การศึกษา และต้นสังกัด
2. เป็นผู้มีวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์
3. มีความสนใจในด้านการออกแบบ การทำธุรกิจ หรือการสร้างสิ่งประดิษฐ์
4. ไม่เคยได้รับทุนสนับสนุน รางวัล หรืออยู่ใน Incubator / Accelerator Program มาก่อน
5. มีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 5 ปี จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ และ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะดำเนินโครงการฝึกอบรม "โครงการ Ind-tech Hackathon" ในวันที่ 16-18 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทุกทีมจะได้โจทย์ 1 โจทย์เหมือนกัน และใช้เวลาในการหาทางออกหรือไอเดียในการแก้ปัญหา ภายในเวลา 48 ชั่วโมง ในการพัฒนาต้นแบบเพื่อแก้ปัญหานั้นๆ ให้ดีที่สุด โดยแต่ละทีมต้องระดมความคิดในการหาทางออกหรือไอเดียในการแก้ไขปัญหาและเสนอแก่คณะกรรมการ โดยมี Mentor และวิทยากร ที่มีชื่อเสียงและอยู่ในวงการ Startup จำนวนมาก ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ Mentor เปรียบเสมือนผู้ให้คำแนะนำและไอเดียในแต่ละทีม วิทยากร เปรียบเสมือนผู้ให้ความรู้ก่อนการลงมือปฏิบัติจริง โดยมีเงินรางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 150,000 บาท เป็นรางวัลชนะเลิศ 100,000 บาท และรางวัล Popular Award 50,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตรสำหรับผู้ที่มาร่วมงานทุกท่าน
"อย่างไรก็ตามโครงการ Ind-tech Hackathon ที่ได้จัดร่วมกับ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษานำร่องในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้เพิ่มความรู้ในการสร้างธุรกิจ หรือนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ที่มีอยู่จริง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายผู้เข้าร่วมที่มีศักยภาพ อีกทั้งรับรู้ถึงการสนับสนุนในการสร้างธุรกิจ หรือนวัตกรรมเพื่อสังคมจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหน่วยงานอื่นๆที่สนับสนุน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่สังคมจะได้รับ หลังจากจบโครงการ Ind-tech Hackathon ครั้งนี้ ทั้งในเรื่อง แนวคิดหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์โดยเฉพาะสังคมผู้สูงอายุ พร้อมทั้งช่องทางในการเสนอถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อให้ร่วมกันหาวิธีพัฒนาและแก้ไขปัญหา และการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมั่นคง ภายใต้โจทย์ที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้วางแผนจัดกิจกรรม Ind-tech Hackathon ดังกล่าวร่วมกับมหาวิทยาลัยอีกทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนพัฒนาบุคลากรในแต่ละท้องถิ่น และพัฒนาธุรกิจหรือนวัตกรรมในการแก้ปัญหาต่างๆ" นายธนารักษ์ กล่าว
ด้าน ดร.นพันษกรณ์ ไวยวุฒิธนาภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์บ่มเพาะและเร่งรัดนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โครงการศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ "CU Innovation Hub" มีพันธกิจหลักในการสนับสนุนให้สังคมไทยเป็นสังคมอุดมปัญญา ด้วยระบบนิเวศนวัตกรรมที่มุ่งสร้างคนเก่งและนวัตกรรมด้วยการเชื่อมโยงองค์ความรู้ งานวิจัยและนวัตกรรมเข้ากับทักษะความคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดเป็นทำเป็น และการเป็นผู้ประกอบการ ผ่านกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (Academy) สร้างสรรค์บ่มเพาะและเร่งรัดนวัตกรรมสู่สังคมไทยและนานาชาติ (Incubation & Acceleration) รวมไปถึงการสื่อสารบริการนวัตกรรมสู่สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จ (Outreach) เพื่อสร้างเสริมสังคมไทยสู่วิถีใหม่ในการใช้ชีวิต การเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ (Transforming how Thais live, learn, and play) อันนำไปสู่รากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
"Hackathon เป็นการแข่งขันเพื่อการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์สังคมตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน โดยจะฝึกทักษะในการพัฒนาธุรกิจอย่างเข้มข้นภายใต้โจทย์ที่กำหนด และเวลาที่จำกัด ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นหัวข้อ Aging Society for Industry 4.0 ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืนนี้ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะได้รับทั้งความรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติภายใต้การทำงานเป็นทีมร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนอกจากจะได้พัฒนาแนวคิด ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างความตระหนักให้แก่สังคมให้ตื่นตัวต่อการก้าวเข้าสู่ยุคสังคมของผู้สูงอายุ และประเทศไทย 4.0 ให้ได้รับการรับรู้โดยทั่วกันถึงความสนับสนุนที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ เพื่อพัฒนาประเทศไทยต่อไปในทุกภาคส่วนอีกด้วย" ดร.นพันษกรณ์ กล่าว
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 09-3725-0808 / 0-22183106-7 หรือสมัครออนไลน์ได้ที่ https://goo.gl/forms/OmeGGnegLnkgPGAE3 หรือ www.facebook.com/cuihub ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น..//