กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC แข็งแกร่ง เผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม377.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.74% หรือ 51.37 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 23.26 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร " ชัชพล ประสพโชค" กรรมการผู้จัดการ คาดไตรมาส 2/2560 มีความชัดเจนสำหรับแผนการลงทุนธุรกิจพลังงาน พร้อมรุกขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV หนุนทั้งปี รายได้โตตามเป้า 1,800 ล้านบาท
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 377.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.74% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 326.42 ล้านบาท
ขณะที่ EBITDA หรือกำไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยงวดไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 69.50 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆที่บริษัทฯ ได้ลงทุนในช่วงที่ผ่านมา อาทิ โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (solar roof top) , โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ , โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) และโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ของบริษัทยูเอซี แอ๊ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์(UAPC)
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวเพิ่มว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2560 คาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของแผนการศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศและมั่นใจว่าการผลการดำเนินของบริษัทในปี 2560 จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 1,800 ล้านบาท จากปีก่อนรายได้รวมทั้งสิ้น 1,381.11 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.71 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ UAPC,โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP), โรงไฟฟ้าเสาเถียรและโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า และโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่เต็มปี ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ 12 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ ยังจะได้รับผลบวกจากการที่กระทรวงพลังงานปรับเพิ่มการใช้ไบโอดีเซลจาก B5 ไปเป็น B7 ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสี ,บรรจุภัณฑ์และอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น