กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--เอ็มเอสแอล กรุ๊ป
วัตสันแถลงแผนธุรกิจประจำปี 2560 มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและ เพิ่มจุดยืนที่แข็งแกร่งในการเป็นผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ขยายสาขาที่ตั้งไว้ถึง 50 - 55 สาขา พร้อมเพิ่มลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เน้นสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ตกแต่งสาขาใหม่ เพิ่มการสื่อสารเชิงดิจิทัล และ อีคอมเมิร์ซกรุงเทพ – 15 พฤษภาคม 2560: วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามของประเทศไทย แถลงผลประกอบการของปี 2559 ที่ประสบความสำเร็จจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมาวัตสันบรรลุเป้าหมายการขยายสาขาที่ตั้งไว้ คือ 50 สาขา และเปิดสาขาเพิ่มถึง 55 สาขา รวมเป็นจำนวน 425 สาขา ในปี 2559 และสำหรับในปี 2560 นี้ วัตสันวางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 50-55 สาขา โดยเน้นกระจายพื้นที่ออกไปตามบริเวณกรุงเทพฯ และ หัวเมืองต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านวัตสันได้มากยิ่งขึ้น งบประมาณการลงทุนจะใช้เพื่อเปิดสาขาและปรับปรุงสาขา เพื่อพัฒนาอีคอมเมิร์ซ และการสื่อสารเชิงดิจิทัล รวมถึงพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และภายในร้าน พร้อมโปรโมชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และความแข็งแกร่งทางด้านการจัดการความความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า (CRM)
มร. ร็อด เร้าท์ลีย์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า "วัตสันประสบความสำเร็จด้วยยอดขายอัตราเติบโตในตัวเลขถึงสองหลัก ซึ่งมาจากปัจจัยหลายประการ ประกอบด้วย Product Innovation การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และเพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงลูกค้า ผ่านทางหน้าร้าน และกิจกรรมพิเศษมากมายสำหรับสมาชิกและลูกค้าของวัตสัน รวมถึงอีคอมเมิร์ซ"
โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา วัตสันเล็งเห็นถึงแนวโน้มที่ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นของการซื้อสินค้าออนไลน์ และ อีคอมเมิร์ซ เราจึงได้มีการพัฒนาระบบการสื่อสารเชิงดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า รวมทั้งพัฒนาการบริการอีคอมเมิร์ซ และ โมบายแอพพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า รวมทั้งให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะเข้าถึงสินค้าและบริการของเราได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น
"วัตสันยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตื่นตาตื่นใจ สร้างสรรค์นวัตกรรม และประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าโดยการเพิ่มความสะดวกสบายไปยังลูกค้า และให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้านสุขภาพและความงาม ข้อเสนอพิเศษมากมาย และสินค้าหลากหลายประเภทที่พร้อมให้ลูกค้าเลือกสรรได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเดสก์ท็อป ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยในการ ขยายช่องทางการขาย และเพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจ และที่สำคัญวัตสันยังมีฐานลูกค้าออนไลน์ที่แข็งแกร่ง โดยมีแฟนเพจในเฟสบุ๊คกว่า 1.9 ล้านคน เมื่อประกอบรวมกับแพลตฟอร์ม Watson Line Official แล้วช่วยให้วัตสันมีฐานข้อมูลที่มีคุณภาพ สามารถเข้าถึงและเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดอีกด้วย"
"วัตสันยังคงพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสันอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเพิ่มสินค้าใหม่กว่า 200 รายการ ซึ่งปัจจุบันการคัดสรรผลิตภัณฑ์ของแบรนด์วัตสัน ได้ขยายฐานการผลิตสินค้าครอบคลุมไปทั่วโลกหลากหลายประเทศ อาทิเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และฝรั่งเศส เป็นต้นเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ไม่เหมือนใคร" มร. ร็อด เร้าท์ลีย์ กล่าวเพิ่มเติม
วัตสัน ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำสุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีสมาชิกถือบัตรวัตสันมากกว่า 3.5 ล้านคน นั่นเพราะสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย จากข้อเสนอพิเศษ ตลอดจนส่วนลดสมาชิก และการแลกคะแนนสะสมต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนช่วยในการผลักดันการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นทั้งที่ซื้อจากในร้านและออนไลน์
นอกจากนี้ วัตสันยังให้ความสำคัญต่อโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ภายใต้ 4 เสาหลัก อันประกอบด้วย สถานที่ทำงาน ตลาดสินค้า สิ่งแวดล้อม และชุมชน วัตสันเล็งเห็นว่าโครงการ CSRเป็นการสร้างความตระหนักรู้ และในขณะเดียวกันเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรรวมถึงลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการตอบแทนสังคม และส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบันวัตสัน ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมสิทธิสตรีด้วยการบริจาค พร้อมจัดกิจกรรมระดมทุนให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ (APSW) รวมทั้งเรายังมีการจัดกิจกรรม CSR เพื่อช่วยเหลือองกรค์อื่นๆ อีกมากมายที่จะจัดขึ้นตลอด ในปี 2017 นี้
"วัตสันกำลังมุ่งหน้าสู่ปีแห่งความสำเร็จอีกปีหนึ่ง โดยยังคงมุ่งเน้นด้านการบริการ ผ่านการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรม ขยายสาขา และการลงทุน เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเรามั่นใจว่าตลาดประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่สามารถขยายการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และเราสามารถคงความเป็นผู้นำด้านสุขภาพและความงานได้อย่างแน่นอน" มร. ร็อด เร้าท์ลีย์ กล่าวสรุปพร้อมการคาดการณ์เชิงบวกในปี 2560