กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--กทม.
วันนี้ (19 ต.ค. 44) เวลา 09.00 น. ที่ห้องบอลรูม โรงแรมนารายณ์ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง การสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถีและศูนย์อาหารในเขตกรุเทพมหานคร โดยมี น.พ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร น.พ.กฤษณ์ หิรัญรัศ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย น.พ.สมยศ เจริญศักดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข Dr.R.B.Singh ผู้แทนองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ผู้อำนวยการเขตทุกเขต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมการสัมมนา โอกาสนี้ ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานครได้บรรยาย เรื่อง บทบาทหน้าที่ ผู้อำนวยการเขตในการบริหารจัดการสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถีในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า สำนักอนามัยร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตดำเนินโครงการพัฒนาสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถีมาตั้งแต่ปี 2540 เพื่อให้ผู้ค้าอาหารริมบาทวิถีได้พัฒนาแผงลอยจำหน่ายอาหารให้สะอาดถูกสุขลักษณะ ร่วมทั้งได้ดูแล เอาใจใส่เรื่องความสะอาดและคุณภาพอาหารที่จำหน่าย ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยในการรับประทานอาหารของประชาชน ทั้งนี้ กทม.ได้สำรวจและมอบสัญลักษณ์ "ดาวเขียว" ให้แก่ แผงลอยจำหน่ายอาหารที่ดำเนินการปรับปรุงแผงลอยให้ถูกสุขลักษณะ 10 ประการ ครอบคลุมทั่วพื้นที่ กทม.ไปแล้ว นอกจากนี้สำนักอนามัยได้ร่วมกับ FAO จัดทำแผน 3 ปี (2545-2547) เพื่อพัฒนาสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถี โดยในปีงบประมาณ 2545 FAO ได้สนับสนุนเงินจำนวน 5,000 US$ ในการจัดสัมมนาผู้บริหารระดับเขต จัดทำผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผมแจกผู้ค้าที่ปฏิบัติตามสุขลักษณะ 10 ประการอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง จัดทำการวิจัย ออกแบบการปกปิดอาหารที่เหมาะสม จัดส่งที่ปรึกษาด้านวิชาการมาช่วยเหลือ กทม. รวมทั้งจะจัดประกวดการออกแบบแผงลอยจำหน่ายอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เป็นระเบียบ สวยงาม ตลอดจนประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้ผู้ค้าและผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสุขาภิบาลอาหารด้วย
นอกจากนี้สำนักอนามัยจะร่วมกับทุกสำนักงานเขตสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ตรวจสอบประเมินผลการปฏิบัติตามสุขลักษณะ 10 ประการของแผงลอยอย่างเคร่งครัด หากพบแผงลอยที่ได้รับดาวเขียวไปแล้วไม่สามารถรักษามาตรฐานไว้ได้ก็จะยึดดาวเขียวคืนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตนต้องการเห็นการสัมมนาครั้งนี้นำไปสู่การปฏิบัติจริง โดยการชี้ชวนให้ผู้ค้าปฏิบัติตามหรืออาจมีการกำหนดเป็นข้อปฏิบัติสำหรับผู้ค้าตามความเหมาะสม ซึ่งนอกจากความสะอาดของอาหารแล้วยังจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับความสะอาดขององค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น สถานที่ โต๊ะซึ่งควรเป็นโต๊ะแบบไม่มีขอบ ภาชนะบรรจุอาหาร ช้อน ตะเกียบฯลฯ ทั้งนี้ขอขอบคุณ FAO และกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้การสนับสนุนในการจัดการสุขาภิบาลอาหารของ กทม.
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้อำนวยการเขตต้องพยายามศึกษาหาความรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ สามารถทำความเข้าใจและตอบปัญหาข้อข้องใจของประชาชนได้ อีกทั้งต้องประสานการทำงานกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อดำเนินงานทุกเรื่องให้สำเร็จลุล่วง นอกจากนี้ผู้อำนวยเขตยังต้องคลุกคลีกับประชาชนเพื่อรับรู้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุขอนามัย เนื่องจากปัจจุบันประชาชนให้ความสำคัญกับด้านสุขภาพมากขึ้น สำหรับปัญหาสุขภาพของประชาชนส่วนหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการสุขาภิบาลอาหาร โดยเฉพาะสุขาภิบาลอาหารริมบาทวิถี ซึ่งการพัฒนาเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ได้แก่ สำนักอนามัยซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยงานด้านวิชาการ และฝ่ายต่าง ๆ ของเขต เช่น ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลซึ่งดูแลในเรื่องความสะอาดของอาหาร ฝ่ายเทศกิจและฝ่ายโยธาดูแลเกี่ยวกับความเป็นระเบียบเรียบร้อยของแผงลอยจำหน่ายอาหาร เป็นต้น ผู้อำนวยการเขตจึงต้องประสานงานกับทุกฝ่ายและในบางโอกาสจะต้องประสานการทำงานกับหน่วยงานภายนอก เพื่อจัดการสุขาภิบาลอาหารที่ดีแก่ประชาชน โดยการดำเนินการทุกอย่างต้องดำเนินการพร้อมกันอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่อง--จบ--
-อน-