กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--IR network
"โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" ส่งสัญญาณธุรกิจช่วงที่เหลือปีนี้ของกลุ่มบมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD ไปแล้ว และเตรียมประมูลเพิ่มอีกเพียบ แถมล่าสุดเป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ ทำให้มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้า 4,300 ล้านบาท
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือปีนี้ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จากไตรมาสไตรมาส 1/2560 ที่กำไรสุทธิจำนวน186 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมและจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 2 โครงการ
อีกทั้งโครงการพลังงานลมจากบริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ เตรียมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในสิ้นปีนี้ จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ประมาณ 4,300 ล้านบาทได้ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านพลังงานทดแทนโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศ AEC เพื่อให้ได้เป้าหมายเมกะวัตต์สะสมไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ในมือแล้ว 489 เมกะวัตต์
"ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้ถือว่าออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะสามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไรจากธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าการจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมถึงการให้บริการด้านบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ตลอดจนผลิตภัณฑ์ LED ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลงานด้านต่าง ๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตลอดจนงานจากภาคเอกชนซึ่งมีการขยายงบประมาณลงทุนจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง" นางสาวโศภชากล่าว ในที่สุด
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงมีข่าวดีต่อเนื่องจากการที่ บริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์ 5 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นถือเป็น 1 ใน 21 บริษัทฯ ที่ได้รับการคัดเลือกจากทางองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะเปิดรับยื่นสมัครขอสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า (PPA) ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมนี้