ฟอร์ด เริ่มโครงการ AICO กับฟิลิปปินส์

ข่าวทั่วไป Wednesday November 28, 2001 11:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย)
บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (สหรัฐอเมริกา) ผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์ ได้ลงนามในข้อตกลงความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยมีประธานาธิบดี กลอเรีย อาโรโย ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการที่บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ จะเป็นผู้ผลิตรายแรก ที่ทำการส่งออกรถยนต์ในปริมาณมาก จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยการลงนามครั้งนี้ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของฟิลิปปินส์ ในความมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จของการเปิดการค้าเสรีในประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน
มร. มานูเอล เอ ร็อกซาสที่ 2 เลขาธิการการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ และมร. ดับเบิลยู เวย์น บุคเคอร์ รองประธานบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (สหรัฐอเมริกา) เป็นผู้แทนลงนามในข้อตกลงครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาพันธ์ธุรกิจ สหรัฐ-อาเซียน โดยการแถลงข่าวครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติในโอกาสที่ ประธานาธิบดี กลอเรีย อาโรโย เดินทางเยือนสหรัฐ
ข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการอนุมัติจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ยอมรับข้อเสนอเพื่อการเข้าร่วมในโครงการความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมในประเทศอาเซียน (AICO) ของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (สหรัฐอเมริกา) โดยโครงการนี้ จะส่งผลให้ภาษีการส่งออกยานยนต์ ระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนลดลงเหลือ 0-5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสิทธิประโยชน์นี้ จะช่วยให้ บริษัทฟอร์ด มีต้นทุนในการผลิตของโรงงานทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ลดต่ำลง โดยโรงงานแต่ละแห่งจะสามารถมุ่งเน้นการผลิตรถเพียงรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ต่างจากในปัจจุบันที่โรงงานของฟอร์ด ทั้งในไทย และฟิลิปปินส์ ต้องผลิตทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะ
ภายใต้โครงการ AICO ฟอร์ด จะย้ายฐานการผลิตรถกระบะ 1 ตัน (ฟอร์ด เรนเจอร์) จากฟิลิปปินส์มาผลิตที่ประเทศไทยทั้งหมด และในทำนองเดียวกัน จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์นั่ง (ฟอร์ด เลเซอร์) ไปอยู่ที่ฟิลิปปินส์ โดยจะเริ่มการผลิตในปี 2545 ทั้งหมดนี้จะก่อให้เกิดการค้าระหว่างประเทศอาเซียน มีมูลค่าถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
มร. บุคเคอร์ กล่าวว่า “ฟอร์ด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอแสดงความชื่นชมต่อ รัฐบาลไทยและ ฟิลิปปินส์ ในการอนุมัติโครงการความร่วมมือภายใต้ AICO ซึ่งข้อตกลงในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของทั้งสองประเทศมีความเห็นตรงกันกับฟอร์ด ในเรื่องความร่วมมือกันและการเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน อันจะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในกลุ่มประเทศสมาชิก”
ข้อตกลงในครั้งนี้จะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศอาเซียน ซึ่งในขณะนี้ทำการผลิตรถยนต์มากกว่าปีละ 1 ล้านคัน เติบโตยิ่งขึ้น การร่วมมือกันระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิก ถือเป็นความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ของภูมิภาคอาเซียน มร. บุคเคอร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการ AICO จะช่วยสร้างความมั่นใจและเป็นการปูแนวทางให้กับ การเตรียมการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน AFTA ในปี 2548 ซึ่งจะมีการลดภาษีอากรขาเข้าเหลือเพียง 0-5 เปอร์เซ็นต์ระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก
เขายังเสริมอีกว่า “การผลิตรถยนต์ในปริมาณมากๆ จะเป็นการเพิ่มความเชี่ยวชาญให้กับแรงงาน และยังส่งผลดีโดยรวมไปถึงอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศ ให้สามารถพัฒนาเพื่อแข่งขันได้ด้วยต้นทุนการผลิต ที่ลดลง จากการผลิตสินค้าเพื่อป้อนโรงงานในจำนวนมาก”
นอกจากนั้น ภายใต้โครงการ AICO ฟอร์ด ฟิลิปปินส์ จะเป็นผู้ผลิตรายแรกของฟิลิปปินส์ ที่มีความสามารถในการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปริมาณมากโดยฟิลิปปินส์จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์นั่ง ฟอร์ด เลเซอร์ และฟอร์ด เอสเคป โดยมีเป้าหมายการส่งออกถึง 65,000 คัน ไปยังประเทศอินโดนีเซีย และไทย ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
สำหรับ ฟอร์ด ประเทศไทย นอกจากการส่งออกรถกระบะ เรนเจอร์ บริษัทฯ ยังจะเพิ่มการส่งออกชิ้นส่วน ยานยนต์สำเร็จรูป เพื่อใช้ประกอบรถยนต์นั่งในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้โครงการ AICO และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มความสามารถในการผลิตรถกระบะเรนเจอร์ ซึ่งเป็นรถที่ส่งออกไปประเทศต่างๆกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในปัจจุบัน
บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ (สหรัฐอเมริกา) ให้การสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดมา ความร่วมมือภายใต้โครงการ AICO ระหว่างฟอร์ด ฟิลิปปินส์ และฟอร์ด ประเทศไทย ถือเป็นความร่วมมือในการปรับปรุงแผนการผลิต เพื่อใช้ประสิทธิภาพในการผลิตของโรงงานทั้งสองของฟอร์ด อย่างเต็มขีดความสามารถ--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ