กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--ซัน คอมม์ อาร์ท
ไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต (Iyara Premium Fruits) เผยยอดเดลิเวอรี่ออนไลน์พุ่งรับช่วงฤดูกาล ผลไม้ไทยคึกคัก เชื่อมั่นทุเรียน-ราชาผลไม้ไทยเป็นไฮไลท์เด็ดมัดใจลูกค้า มั่นใจคัดคุณภาพทุกลูก บรรจุ-จัดส่งดูแลเสมือนลูกน้อย ตั้งแต่ต้นทางถึงมือผู้บริโภคปลายทาง เผยผลประกอบการธุรกิจ เดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมเติบโต 50% ในปี 2559 ตั้งเป้าโตต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจปีนี้จะไม่เป็นใจ
นางกานดา เดชเทวัญดำรง ผู้จัดการร้านไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต (Iyara Premium Fruits) แฟรนไชส์ผลไม้เกรดพรีเมี่ยม และ ผู้นำด้านบริการเดลิเวอรีผลไม้ เกรดพรีเมียม เปิดเผยว่า ปัจจุบันยอดเดลิเวอรี่กำลังพุ่งขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลของผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะทุเรียน-ราชาผลไม้ไทยที่มียอดขายเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งเรา มีโรงรับซื้อผลผลิตจากสวนอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี จึงมีโอกาสในการคัดผลไม้แต่ละเกรดตั้งแต่มือแรกเพื่อส่งออก และค้าปลีกในประเทศ เช่น ทุเรียน เราเลือกแบบห่ามกำลังกิน กรอบนอกนุ่มใน ส่วนมังคุดคัดลูกมันใหญ่ ผิวสีแดง เกรดส่งออก เพื่อให้บริการเดลิเวอรี่ถึงบ้านลูกค้า
ปัจจุบันเฉพาะในส่วนของออเดอร์เดลิเวอรี่ออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 40-60 รายในวันจันทร์-ศุกร์ โดยมียอดสั่งซื้อเฉลี่ย รวมสำหรับผลไม้ไทย และผลไม้นำเข้าประมาณ 15,000-30,000 บาท หากเป็นช่วงเทศกาล เช่น ตรุษจีน ปีใหม่ ออเดอร์จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ออเดอร์ และจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนรถห้องแอร์ในการช่วยขนส่ง จากเดิมที่มีให้บริการอยู่ประมาณ 5 คัน โดยลูกค้าบางรายมียอดจับจ่ายในช่วงเทศกาลสูงถึงหลักแสนบาท เพื่อมอบผลไม้เป็นของฝากของขวัญ
สำหรับจุดแข็งที่ทำให้บริการเดลิเวอรี่ผลไม้ของไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคจนถึงทุกวันนี้ นอกจากคุณภาพความพรีเมียมของสินค้าที่คัดกันแบบลูกต่อลูก พนักงานถือเป็นหัวใจสำคัญอีกประการ เช่น ทีมรับคำสั่งซื้อ ทีมคัดเลือกและบรรจุผลไม้ ทีมควบคุมคุณภาพผลไม้ ทีมจัดส่งผลไม้ ฯลฯ ที่นับวันมีแต่จะเพิ่นพูนประสบการณ์ความชำนาญมากขึ้น ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าและมาตรฐานบริการ ตลอดทั้งวงจร โดยทางไอยราพรีเมียมฟรุ๊ตจะเปิดรับออเดอร์เดลิเวอรี่ผลไม้ล่วงหน้า 1 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. จากนั้นจะทำการจัดเตรียมแพ็คผลไม้ในตอนเช้าและจัดการขนส่งด้วยรถห้องเย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิสินค้าตลอดทาง เพื่อคงความสดใหม่ของสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยหวังจะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคในพื้น ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก
นางกานดา กล่าวต่อว่า "เป็นความจริงที่ว่าผลไม้ไทยซื้อที่ใดก็ได้ เช่น ห้างสรรพสินค้า แต่จุดแข็งของเราคือความสะดวกในการสั่งเดลิเวอรี่ออนไลน์ ลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้านไปเผชิญฝนตก รถติด ก็สามารถรับประทานผลไม้เกรดพรีเมียมได้ เพียงแต่เราต้องควบคุมคุณภาพสินค้าให้ดีตั้งแต่ต้นทาง อย่างทุเรียนเราแกะเนื้อสดใหม่ทุกเช้า บรรจุใส่กล่องและลังโฟมอย่างดี แล้วนำขึ้นรถขนส่งเลย เพราะเรารู้ดีว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างไวเหมือนกับระเบิดเวลา ไม่สามารถแกะเนื้อค้างไว้แบบทำวันนี้ ส่งพรุ่งนี้ได้ หรือหากแกะพบทุเรียนเนื้อนิ่มหรือเละ เราทิ้งทันที แม้จะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เราอยากให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ที่สำคัญเราโทรเช็คลูกค้าก่อนส่งเสมอ และให้โอกาสลูกค้าได้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อน หากไม่พอใจหรือสินค้าเกิดความเสียหาย เรายินดีเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่หรือคืนเงินแก่ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้ให้บริการ เดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมรายใดรับเคลมสินค้าเช่นนี้ ลูกค้าจึงมั่นใจในแบรนด์ไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต และใน 80% เป็นลูกค้าประจำที่กลับมาสั่งซื้อซ้ำและกล้าสั่งผลไม้ในปริมาณเพิ่มขึ้น"
นางกานดา ยอมรับว่าช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดเดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมค่อนข้างดุเดือด เนื่องจากมีผู้เล่นหลายรายกระโดดเข้ามาชิมลางในตลาด แต่ท้ายที่สุดเหลืออยู่ประมาณไม่เกิน 3 รายเท่านั้น เพราะด้วยความละเอียดอ่อนของสินค้าอย่างผลไม้ที่เน่าเสียได้ง่าย และเร็ว ความใส่ใจในการเก็บรักษาคุณภาพความสด ใหม่ของสินค้า และการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมที่ลูกค้ายังชื่นชม มีส่วนอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้า ในครั้งต่อไป
สำหรับอัตตราการเติบโตของ ธุรกิจเดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมในปี 2559 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2558 เนื่องจากการรักษาคุณภาพความพรีเมียมของผลไม้ ความหลากหลายของสินค้าที่มีการอัพเดตผลไม้ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเสมอ ประกอบกับแผนการตลาดที่ดี การทำโฆษณาสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องทั้งช่องทางออนไลน์ผ่าน Line, Facebook และ Instagram และออฟไลน์ โดยเฉพาะกลยุทธ์การใช้ดาราเซเลบริตี้มาช่วยโปรโมต นับว่าช่วยเพิ่มยอดเดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับปี 2560 ธุรกิจเดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมมีโอกาสที่จะเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เนื่องจากลูกค้าของไอยราพรีเมียมฟรุ๊ตเป็นกลุ่มระดับกลางถึงบน จึงมีผลกระทบไม่มากนัก อาจสั่งในปริมาณน้อยลง แต่ยังคงบริโภคอยู่เช่นเดิม ทั้งนี้ คาดว่าช่วงเปลี่ยนผ่านจากผลไม้นำเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ภายในประเทศ ยอดเดลิเวอรี่น่าจะเติบโตมากขึ้นจากความนิยมบริโภคผลไม้ไทยที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ชาติใดในโลก อีกทั้งราคาย่อมเยา โดยไฮไลท์ยอดนิยมยังคงเป็นทุเรียนและมังคุด ซึ่งถือเป็นราชา-ราชินีผลไม้ไทย นอกจากนั้นยังมีเงาะ ลิ้นจี่ ที่คาดว่าผู้บริโภคจะนิยมสั่งไปรับประทาน
"ปัจจุบันแบรนด์ไอยราพรีเมียมฟรุ๊ตเป็นที่รู้จักของตลาดในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่เราไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้า และบริการ รวมทั้งทำการตลาดสร้างแบรนด์ตลอดเวลา โดยตั้งแต่ต้นปี 2560 เราออกบูธตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อให้ แบรนด์เป็นที่รู้จักของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น และกระตุ้นให้ลองใช้บริการสั่งผลไม้กัน ควบคู่ไปกับการทำการตลาดผ่านกลุ่มดารานักแสดง โดยคัดสรรผลไม้ส่งไปให้ทดลองทาน ต่อมาดาราเซเลบเหล่านี้ กลายเป็นลูกค้าประจำของไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต ส่งผลให้ไอยราพรีเมียมฟรุ๊ตมีออเดอร์เข้ามาอย่างเห็นได้ชัด"