กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวไว้ในรายงานฉบับใหม่ว่า การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิตในประเทศไทยในรอบปีนี้คาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนมาจากผลิตภัณฑ์ประเภทคุ้มครอง (Protection) และประเภทยูนิตลิงค์ แม้ว่าโดยภาพรวมอุตสาหกรรมจะเติบโตช้าลงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงและการชะลอตัวของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ
บริษัทประกันชีวิตไทยยังคงมีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแรงจากความสามารถในการทำกำไรที่สม่ำเสมอและการบริหารเงินลงทุนที่ระมัดระวัง ซึ่งน่าจะส่งผลให้บริษัทประกันชีวิตไทยสามารถรับมือกับภาวะธุรกิจที่ผันผวนและกฏเกณฑ์ที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นได้ ฟิทช์คาดว่าบริษัทประกันชีวิตไทยน่าจะยังคงบริหารเงินลงทุนอย่างระมัดระวัง แม้ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง
กฏเกณฑ์การกำกับดูแลของธุรกิจประกันภัยไทยยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่องโดยกฏเกณฑ์ใหม่ที่อยู่ระหว่างการทยอยประกาศใช้คือเรื่องการออกและเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และการถือครองหุ้นของบริษัทประกันภัยไทยโดยต่างชาติ ฟิทช์คาดว่าหลักเกณฑ์ใหม่นี้น่าจะเพิ่มความชัดเจนให้กับกรอบการกำกับดูแลในด้านการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยทางอิเล็กทรอนิกส์และสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่การผ่อนผันหลักเกณฑ์เรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติอาจส่งผลให้เกิดความร่วมมือหรือมีการควบรวมกิจการกับบริษัทประกันภัยต่างชาติในอนาคต
ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการพัฒนาหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะที่สอง (Risk-Based Capital Framework Phase II) ซึ่งฟิทช์เชื่อว่าหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมประกันชีวิตของประเทศไทยรวมถึงผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตให้มากยิ่งขึ้น
รายงานเรื่อง "Thailand Life Insurance Market Dashboard 2017" สามารถดูได้จาก www.fitchratings.com