กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ไอบีเอ็มประกาศตัว Trusted e-Payment “ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้”
ธนาคารสองแห่งในญี่ปุ่นเริ่มทดลองใช้ e-Payments B2B รุ่นใหม่
ไอบีเอ็มประกาศความร่วมมือกับธนาคารยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นสองแห่งในการนำระบบ ”ชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” หรือ B2B “trusted e-payments ” มาทดลองใช้ โดยที่โปรแกรมนี้จะกำหนดโครงสร้างการเรียกเก็บและชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตระหว่างสถาบันการเงินและลูกค้าของสถาบันการเงินเหล่านั้น
ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ (Bank of Tokyo-Mitsubishi) และธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (Industrial Bank of Japan) เป็นสถาบันการเงินสองแห่งแรก ที่ร่วมในโครงการนำร่อง ซึ่งทำให้สถาบันทั้งสองแห่งสามารถสร้างระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ “trustede-Payments ” นี้ให้ทำงานสอดคล้องกับ Identrus LLC ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของการทำพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรระดับโลก และได้รับการสนับสนุนจากสถาบันทางการเงินชั้นนำกว่า 50 แห่งทั่วโลก
โครงการนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการการเงิน การธนาคารจากระบบเดิมที่ใช้เอกสารกระบวนการเรียกเก็บเงินและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange - EDI) เปลี่ยนมาเป็นการให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ตที่ถูกกว่าและสะดวกกว่าสามารถใช้บริการได้ตลอดเวลา อีกทั้ง มีระบบรักษาความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ลายเซ็นดิจิตอลสมาร์ต-การ์ดและเทคโนโลยีการเข้ารหัส (Encryption technology) ที่จะช่วยให้สถาบันทางการเงินสามารถพิจารณาอนุมัติให้ลูกค้าของบริษัทเข้าใช้บริการ “ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” ได้อย่างปลอดภัย
เกี่ยวกับ “ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” ของไอบีเอ็ม “ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส็กท์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” นี้ได้ผสานการทำงาน ที่ยอดเยี่ยมของซอฟต์แวร์ การบริการ และโซลูชันใหม่ของไอบีเอ็มมารวมกัน ได้แก่ มิดเดิลแวร์สำหรับ B2B อเนกประสงค์ อาทิ IBM WebSphere Payment Manager เวอร์ชันใหม่ ซึ่งตรงตามคุณลักษณะเฉพาะของการทำ trusted e-payment ของ Project Eleanor ตามมาตรฐาน Identrus WebSphere MQ Integrator และ Tivoli Policy Director รวมทั้ง ซอฟต์แวร์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งในการรักษาความปลอดภัย อาทิ Java Cryptography Architecture ซึ่งจะช่วยรักษาความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์ในระบบ IBM 4758 PCI Cryptographic Coprocessor และ Digital Signature Messaging System (DSMS) รวมถึง ตัววิเคราะห์และตรวจสอบ XML Digital Signature
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้รวมบริการ IBM Payment Services ไว้ในโซลูชันระบบ“ชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” ด้วย IBM Payment Services นี้เป็นบริการที่ไอบีเอ็มจะเข้าไปช่วยติดตั้งระบบมาตรฐานสากลในการทำธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขายและธนาคารสองแห่ง ที่เป็นสมาชิกของ Identrus เร่งระยะเวลาในการทำธุรกรรมผ่าน e-Payments และบริการตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง บริการต่อเชื่อมระบบเดิมกับโซลูชั่นใหม่เพื่อช่วยลูกค้าบริหารค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ IBM Global Services ยังจัดคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีมาช่วยสถาบันการเงินต่างๆ ในการวางแผน ออกแบบ และใช้งานโซลูชัน Indentrus-complaint PKI
โรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็มที่ Fujisawa ประเทศญี่ปุ่น และซัพพลายเออร์ของโรงงานทั้งหมดทั้งสองแห่งนี้ด้วย โดยจะเปลี่ยนจาก EDI มาทดลองใช้ trusted e-Payments กับซัพพลายเออร์ของโรงงาน
นายมาร์ก กรีน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดธุรกิจการธนาคาร ไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “การพาณิชย์บนอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมระหว่างองค์กรและลูกค้ารายย่อย (B2C) ซึ่งเป็นธุรกรรมย่อยๆ จำนวนมากแต่เป็นจำนวนเงินครั้งละน้อยๆ ขณะที่”ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างองค์กรและองค์กรที่วางใจได้” หรือ trusted e-Payments จะเข้ามาดูแลการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในระดับธุรกิจต่อธุรกิจ
เกี่ยวกับ IBM Financial Services Sector
ฝ่ายการตลาดกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินของไอบีเอ็มเป็นผู้นำด้านจัดหาโซลูชันอี-บิสิเนส ให้แก่อุตสาหกรรมการธนาคาร ตลาดการเงิน และธุรกิจประกันภัย โซลูชันเหล่านี้ประกอบด้วย การให้บริการด้านการวางกลยุทธ์ การให้คำปรึกษา การติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ จัดหาระบบฮาร์ดแวร์ซอฟท์แวร์และแอพพลิเคชั่นด้านอี-บิสิเนสจากบริษัทคู่ค้าและผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลก รวมถึง การค้นคว้าวิจัยที่ก้าวหน้า
สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอบีเอ็มได้ที่
www.ibm.com/solutions/financialservices-- จบ--
-อน-