กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--IR network
บมจ. ช ทวี หรือ CHO ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 5 -10% จากปีก่อน หลังตุนงานในมือแล้ว 697.41 ล้านบาท ด้านบิ๊กบอส "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" แย้มอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (e-Ticket) มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รอลุ้นประกาศผล 31 พ.ค. นี้
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าการขยายตัวของรายได้เพิ่มจากปีก่อนโดยประมาณ 5 -10%
เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 697.41 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศอยู่จำนวนมาก
ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลงานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (e-Ticket) มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท ซึ่งมีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นเจ้าของโครงการนั้น บริษัทฯ และพันธมิตรเป็น ผู้ชนะการประมูล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา และจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด ขสมก. ในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติเห็นชอบโครงการดังกล่าว หากบอร์ดอนุมัติ คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ทันที
"ช ทวี มีความพร้อมทุกด้าน อาทิ บุคลากรมีความรู้ความสามารถ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมทีมงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้งยังมีพันธมิตรที่ดีทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เราจึงเชื่อมั่นอย่างยิ่งสำหรับการรับงานโครงการต่างๆ ทั้งนี้ งานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (e-Ticket) หากบริษัทฯ ได้รับงานดังกล่าวจะต้องติดตั้งระบบ e-Ticket บนรถของขสมก. ไม่ต่ำกว่า 100 คัน ภายในระยะเวลา 120 วันนับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด เนื่องจากเรามีประสบการณ์ในการทำงานระบบตั๋วจากโครงการ KKU Smart Transit : KST หรือ รถขนส่งมวลชนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ขอนแก่นซิตี้บัส ซึ่งเราเป็นผู้บริหารโครงการดังกล่าวด้วย" นายสุรเดช กล่าว
นอกจากนี้ แผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก "สิบล้อ 24 ชั่วโมง" ให้ครบ 8 แห่ง ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2561-2563) โดยบริษัทฯ ได้เปิดให้บริการแห่งแรกแล้วที่ จ.ชลบุรี ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมากเนื่องจากศูนย์บริการเป็นประเภท One stop service ที่เดียวจบครบทุกความต้องการ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี