กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวกรอบแคบ ขณะที่ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นตลอดขานรับนโยบาย EC และเศรษฐกิจของไทยที่มีความเข้มแข็ง โดยเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วจากระดับ 34.35 บาท/ดอลลาร์ มาเปิดที่ระดับ 34.09 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ โดยส่วนหนึ่งมาจากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า สำหรับ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ยังคงถือครองที่ระดับ 847.52 ตัน สำหรับภาพรวมตลาดยังมองว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยมีโอกาสสูง 83% ด้าน Jobless Claims ออกมาแย่ลงเล็กน้อย โดยมีผู้ขอสวัสดิการสูงขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 234,000 ราย อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯคืนนี้ที่ต้องติดตาม ได้แก่ Core Durable Goods Orders และ Prelim GDP ที่คาดว่าจะออกมาดขึ้น ขณะที่Durable Goods Orders คาดว่าจะออกมาแย่ลง และ Revised UoM Consumer Sentiment ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อยหรือทรงตัว
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ทางเทคนิคระยะสั้นของทองคำเป็น Sideways ระหว่าง 1,235 – 1,260 เหรียญ ขณะที่ภาพระยะยาวยังมีความไม่ชัดเจน ยังถูกดดันจากสภาวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สำหรับราคาทองคำไทยยังถูกแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท จึงทำให้ราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่บริเวณ 20,300 บาท/บาททองคำ โดยราคาทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 20,150 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,400 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงุทนในกรอบแคบระหว่าง 1,235 – 1,260 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ ตามการแกว่ง เน้นเล่นสั้นๆเท่านั้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait&See รอความชัดเจนของทิศทางที่ตลาด ที่คาดว่าน่าจะรอผลประชุมเฟดในช่วงกลางเดือหน้า
Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,500 บาท
Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,360 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,560 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: research@mtsgoldgroup.com
Website: http://www.mtsgold.co.th