แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ไตรมาส 3 กำไรเพิ่มกว่า 300 % 9 เดือนกำไรแล้ว 1,326 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผลปีหน้า

ข่าวทั่วไป Monday November 26, 2001 14:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2544 ต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยมีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 3/2543 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพียง 119 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิรวม 3 ไตรมาสของปี 2544 มียอดสูงถึง 1,326 ล้านบาท เทียบกับปี 2543 ซึ่งมียอดเพียง 178 ล้านบาท
นายอนันต์ อัศวโภคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสาเหตุที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 300% ในไตรมาสที่ 3 มีดังต่อไปนี้
1. บริษัทฯ มียอดขายจากการโอนบ้านในไตรมาสที่ 3/2544 เท่ากับ 2,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2543 ซึ่งมียอดขาย 1,440 ล้านบาท เป็นอัตราเพิ่มถึง 70% หากรวมบริษัทย่อยแล้วจะมียอดขายรวมเป็น 2,624 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2544 ซึ่งเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2543
2. บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 31.1% ในไตรมาสที่ 3/2543 เป็น33.7% ในไตรมาสที่ 3/2544 โดยเป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเหลือเพียง 9.7% ของยอดขายในไตรมาสที่ 3/2544 เมื่อเทียบกับ 10.4% ในไตรมาส 3/2543 ทั้งนี้เพราะประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างบ้านก่อนขาย
4. ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสที่ 3/2544 ลดลง 54 ล้านบาท เนื่องจากภาระหนี้ที่ลดลงตามลำดับ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงด้วย
ทางด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ นั้น นายอดิศร ธนนันท์นราพูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ได้ชี้แจงว่า ยอดหนี้เงินกู้ของบริษัทฯ ได้ลดลงมาโดยตลอด และลดลงเร็วกว่าที่บริษัทฯ เคยคาดไว้ ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลงจาก 1.05 : 1 เมื่อสิ้นปี 2543 เหลือเพียง 0.74 : 1 เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 3/2544 โดยในช่วง3 ไตรมาสของปี 2544 บริษัทฯ สามารถลดหนี้เงินกู้ลงเป็นจำนวนประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกเหนือจากที่บริษัทฯ ได้ลงทุนไปเกือบพันล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินในทำเลใหม่ๆ สำหรับพัฒนาและเตรียมเปิดโครงการในปีหน้า.นายอดิศร ให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงแนวโน้มของผลประกอบการในอนาคตว่า บริษัทฯ ยังคงจะได้รับผลดีจากแนวโน้มขาขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น, การลดลงอย่างต่อเนื่องของภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทฯ และผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะดีขึ้นของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม.
สำหรับแผนงานด้านการบริหารการเงินของบริษัทฯ ในระยะอันใกล้นี้จะเป็นการลดต้นทุนการเงินของบริษัทฯ ลง ด้วยการออกหุ้นกู้จำนวน 1,500 ล้านบาท ในช่วงต้นธันวาคมนี้ โดยคาดว่าจะสามารถทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายในส่วนนี้ลดลงประมาณ 1.5%
นายอนันต์ ได้กล่าวเพิ่มเติม ถึงสถานการณ์ของตลาดที่อยู่อาศัยว่า ความต้องการของประชาชนในที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และการแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ตลอดจนมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในการฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีบ้านได้ง่ายขึ้นในราคาที่เหมาะสม แต่ปัญหาในปัจจุบัน คือ อุปสงค์ของตลาดมีมากกว่าอุปทานโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ ทำให้เกิดการขาดแคลนที่อยู่อาศัยบางประเภทในหลายๆ ทำเล ทั้งนี้เนื่องจากเหลือผู้ประกอบการน้อยรายที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการยังมีปัญหาเรื่องการเงิน ถึงแม้จะปรับโครงสร้างหนี้แล้วผู้ประกอบการก็ยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอยู่มาก เนื่องจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ ทำให้อุปทานของที่อยู่อาศัยลดน้อยลงมาก ปัญหานี้จะคลี่คลายไปเมื่อสถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยมั่นใจว่าที่อยู่อาศัยขาดแคลนและยังมีอุปสงค์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นจนถึงสิ้นปี 2544 นี้จะสูงกว่าปี 2543 ประมาณ 15%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร.0-2237-8900 - 3 ต่อ 587--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ