กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--
คนเราต้องตามหาสิ่งใดในชีวิต ? พระอุดมปรีชาญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรุงเทพฯ ตั้งปริศนาธรรมในการบรรยายธรรม หัวข้อ "สิ่งที่ควรตามหา"บนเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ซึ่งจัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ เวทีที่น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาเผยแผ่ให้กับพนักงานและผู้สนใจจากย่านสีลมได้ฟังเป็นประจำทุกเที่ยงวันศุกร์ ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องกว่า 21 ปี
พระอุดมปรีชาญาณ อธิบายว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่คนเราตามหา เครื่องประดับให้ชีวิต นั่นคือ "ปัญญา" อันเป็นเครื่องประดับที่จะทำให้สามารถพิจารณาใคร่ครวญเหตุการณ์ ปัญหา และอุปสรรค ที่เข้ามาในชีวิต และสามารถแก้ไขได้โดยง่าย ปัญญานี้จะนำไปสู่จุดหมายของสิ่งที่ตามหาได้ทุกกรณี
ในทางพระพุทธศาสนา ถ้าจะอนุมานเอาพระชนม์พรรษาของพระพุทธเจ้าก็คือ 80 พรรษา พระองค์ใช้ปัญญาในแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันออกไป ให้ลองแบ่งช่วงวัยเป็น 3 ช่วง ในแต่ละช่วงวัยห่างกันประมาณ 10,000 วัน จะพบว่า
ในช่วงหมื่นวันแรก เป็นช่วงอายุที่สิ่งที่คนเราตามหา คือ การสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นแก่ชีวิตของเรา ตั้งแต่วัยทารก ไปวัยเรียน จนกระทั่งวัยเริ่มต้นทำงาน คือ การแสวงหาความรู้ ธรรมเนียมนิยมของครอบครัว ชุมชน สถานที่ต่างๆ ที่คนเราอาศัยอยู่ในสภาวะแวดล้อมและบริบทแตกต่างกันไป
หมื่นวันที่สอง เป็นช่วงที่ต้องใช้ปัญญาในการสร้างมิตรภาพ ตามหามิตรแท้ของชีวิตที่จะสร้างความมั่นคงให้หน้าที่การงาน คู่แท้ที่จะดูแลประคับประคองครอบครัว หรือแม้กระทั่งเพื่อนแท้ที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ช่วยเหลือกันในยามยาก
หมื่นวันที่สาม คือ หมื่นวันสุดท้าย เป็นช่วงอายุที่สำคัญ เป็นช่วงที่หลังจากค้นหาสิ่งต่างๆ มาทั้งชีวิตจนกล้าแกร่งเข้มแข็งแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่ได้ใคร่ครวญว่า ที่ผ่านมาได้ทำอะไรที่ดีมีคุณค่าทั้งต่อตัวเรา ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อบุคคลรอบข้างมากแค่ไหน
ในทุกขณะที่คนเราตามหาสิ่งต่างๆ เข้ามาในชีวิตล้วนสร้างจากปัญญา เมื่อค้นพบปัญญาแล้ว สิ่งใดก็ตามที่ค้นหา จะนำความสุขมาให้แก่เรา แต่ความสุขนั้นจะเกิดขึ้นได้มากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาขจัดปัญหาออกไป "ปัญญา" จึงเป็นสิ่งที่ควรตามหาที่สุดในชีวิตของเรา อย่างไรก็ตามความสุขในแต่ละระดับของคนเราไม่เหมือนกัน จงรู้จัก "พอเพียง" จึงจะเป็นความสุขแท้จริง พระอุดมปรีชาญาณกล่าวทิ้งท้าย บทสรุปสิ่งที่ควรตามหาในชีวิตจากเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ